Reskill Thailand เติมเต็มความรู้และแรงบันดาลใจ ในการพัฒนาทักษะใหม่ให้คนทำงาน เพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงของโลก by Mission To The Moon Media
Mission To The Moon
#missionชวนคุย มาแชร์กันว่า...ข้ออ้างอะไรบ้างที่คุณเคยได้ยินในที่ทำงานที่ฟังแล้วรู้สึกว่าไม่เนียนที่สุด
1 day ago | [YT] | 76
View 2 replies
เช้าวันหนึ่ง คุณยืนทำไข่ดาวในกระทะเทฟลอนที่ใช้มาได้สักพัก ไม่ได้สังเกตรอยขีดข่วนเล็กๆ ที่เกิดจากการใช้กระทะเป็นประจำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในทุกครั้งที่ทำอาหาร คุณอาจกำลังรับประทานไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกายโดยไม่รู้ตัว.การศึกษาครั้งสำคัญในปี 2022 จากนักวิจัยที่ University of Newcastle และ University of Queensland ที่ได้เผยแพร่ผลงานใน Science of The Total Environment วารสารระดับโลก ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครัวบ้านของเราทุกวัน.นักวิจัยค้นพบว่า แค่รอยขีดข่วนเพียงเส้นเดียวบนผิวเคลือบเทฟลอน (PTFE - polytetrafluoroethylene) สามารถปล่อยอนุภาคไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกได้มหาศาลถึง 2,300 ถึง 9,100 อนุภาคในการใช้งานเพียงครั้งเดียว หากต้องการให้เห็นภาพ 9,100 อนุภาคไมโครพลาสติกนี้เทียบเท่ากับเม็ดเกลือหนึ่งช้อนชาครึ่ง ที่แตกต่างคือเกลือละลายได้ แต่ไมโครพลาสติกเหล่านี้จะค้างอยู่ในร่างกายไปตลอด โดยปริมาณที่แท้จริงขึ้นอยู่กับความลึกและขนาดของรอยขีดข่วนนั้น หากรอยข่วนยิ่งกว้างและลึกก็อาจสามารถปล่อยไมโครพลาสติกได้มากกว่า 2 ช้อนชา.สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อเราใช้ช้อนตะหลิวโลหะขูดกระทะ หรือเปิดไฟแรงจนอุณหภูมิสูงเกิน 260 องศาเซลเซียส ปริมาณไมโครพลาสติกที่หลุดออกมาจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนทำกันเป็นปกติในการทำอาหารประจำวัน..วิกฤตครัวบ้าน เมื่อเขียงพลาสติกเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรกังวล.แต่ปัญหาไม่ได้จบแค่ที่กระทะเทฟลอนเท่านั้น เมื่อนักวิจัยหันไปศึกษาเขียงพลาสติกที่เราใช้หั่นผักผลไม้ทุกวัน ผลที่ได้ออกมายิ่งทำให้ต้องตกใจมากกว่าเดิม โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Science and Technology พบว่า การใช้เขียงพลาสติกในชีวิตประจำวันทำให้เราได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายถึง 14-71 ล้านชิ้นต่อปี.เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หากเปรียบเทียบปริมาณไมโครพลาสติกที่เราได้รับจากเขียงพลาสติกเพียงอย่างเดียว มันเท่ากับการที่เราหั่นบัตรเครดิต 10 ใบเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วกินลงไปในร่างกายทุกปี ลองนึกภาพดูว่าเราทำแบบนี้มาแล้วกี่ปี และจะสะสมไปอีกกี่ปีข้างหน้า.ไมโครพลาสติกเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย ปัญหาใหญ่ที่สุดคือพลาสติกเป็นสารที่ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ หมายความว่าเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว มันจะค้างอยู่ในระบบต่างๆ ของร่างกายไปเป็นระยะเวลานาน บางครั้งอาจเป็นปีหรือทศวรรษ..เมื่อไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดอะไรขึ้น?.แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ยังคงทำการศึกษาผลกระทบต่อมนุษย์อย่างละเอียดต่อไป แต่การทดลองในสัตว์ได้เริ่มชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงที่น่ากังวลหลายประการ ไมโครพลาสติกมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของระบบฮอร์โมน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโต การสืบพันธุ์ และการทำงานของต่อมต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่าอาจก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย และในบางกรณีอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ในระดับที่อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว.สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อเรามองย้อนกลับไปดูประวัติของกระทะเทฟลอน ในอดีตกระทะเหล่านี้ใช้สารเคมีชื่อ PFOA (Perfluorooctanoic Acid) ในกระบวนการผลิตเคลือบ สารตัวนี้ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งที่มีความน่าจะเป็นสูงในมนุษย์ แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตจะได้หยุดใช้ PFOA ตั้งแต่ปี 2012 แล้ว แต่ก็หันไปใช้สารเคมีตัวใหม่ที่มีชื่อว่า GenX รวมไปถึงสาร PFAS ชนิดอื่นๆ ที่ยังไม่มีการศึกษาความปลอดภัยอย่างครอบคลุม.มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจที่เรียกกันว่า "Teflon flu" ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีการสูดดมควันจากเทฟลอนที่ถูกทำให้ร้อนจัดเกินไป ผู้ที่ได้รับควันนี้จะมีอาการคล้ายกับการเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่จะหายเองได้ภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะนก ควันเทฟลอนนี้สามารถทำให้เสียชีวิตได้ทันที..ทางออกและทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน.ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้เสนอแนวทางป้องกันและทางเลือกที่หลากหลาย สำหรับผู้ที่ยังต้องการใช้กระทะเทฟลอนต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนกระทะทันทีเมื่อเห็นรอยขีดข่วนหรือเคลือบเริ่มลอกออก การหลีกเลี่ยงเครื่องมือโลหะและหันมาใช้ช้อนตะหลิวไม้ พลาสติก หรือซิลิโคนแทน รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิการปรุงอาหารไม่ให้เกิน 260 องศาเซลเซียส.สำหรับผู้ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า กระทะสแตนเลสสตีล เหล็กหล่อ หรือเหล็กคาร์บอนเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม แม้ว่าในช่วงแรกจะต้องปรับเทคนิคการทำอาหารและอาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เพิ่มเติม แต่เครื่องครัวเหล่านี้สามารถใช้งานได้นานหลายทศวรรษและมีความปลอดภัยสูงกว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ได้หยุดแค่ที่กระทะ การเลือกใช้เขียงไม้แทนเขียงพลาสติกจะช่วยลดการได้รับไมโครพลาสติกอย่างมาก แม้ว่าเขียงไม้จะต้องมีการดูแลรักษามากกว่า เช่น การล้างด้วยน้ำส้มสายชูเป็นประจำเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ก็ปลอดภัยกว่ามาก..ทั่วโลกตื่นตัว ออกกฎหมายต่อต้าน PFAS.ปรากฏการณ์นี้ทำให้ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับปัญหาไมโครพลาสติกและสาร PFAS ในเครื่องครัว รัฐมินนิโซตาได้กลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกาที่ออกกฎหมายห้ามขายผลิตภัณฑ์ที่มีสาร PFAS รวมถึงเครื่องครัวด้วย รัฐอื่นๆ กำลังศึกษาและเตรียมออกกฎหมายในลักษณะเดียวกัน.ในทวีปยุโรป ประเทศฝรั่งเศสกำลังเตรียมใช้กฎหมายห้าม PFAS ตั้งแต่ปี 2026 แต่เนื่องจากแรงกดดันจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องครัวขนาดใหญ่อย่าง Tefal ทำให้ยังคงยกเว้นเครื่องครัวออกจากกฎหมายนี้ไว้ก่อน.สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือกับดักทางการตลาดจากกระทะ "เซรามิก" ที่โฆษณาว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ความจริงแล้วเคลือบ "เซรามิก" ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำจากเซรามิกแบบที่เราเข้าใจ แต่เป็นการผสมผสานระหว่าง siloxane กับ polydimethylsiloxane (PDMS) และนาโนอนุภาคแร่ธาตุต่างๆที่น่ากังวลคือหลายแบรนด์ยังคงใช้สาร PFAS ในกระบวนการผลิต แม้จะติดฉลาก "เซรามิก" หรือ "PFOA-free" ก็ตาม ผู้บริโภคที่ต้องการหลีกเลี่ยงสาร PFAS ทั้งหมดควรมองหาฉลาก "fluorine-free" แทนการเชื่อฉลาบโฆษณาทั่วไป..เมื่อมองภาพรวมของปัญหานี้ เราจะเห็นว่าการเลือกใช้เครื่องครัวในยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่เคยเป็น มันเป็นการชั่งน้ำหนักระหว่างความสะดวกในการใช้งาน ราคาที่จ่ายได้ และความปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว.สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจความเสี่ยงที่แท้จริง และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรลืมคือการทำอาหารเองที่บ้านยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการสั่งเดลิเวอรี่หรือซื้ออาหารสำเร็จรูปทุกมื้อ.รอยขีดข่วนเล็กๆ เพียงเส้นเดียวอาจดูไม่สำคัญ แต่เมื่อเรารู้ว่ามันสามารถปล่อยไมโครพลาสติกหลายพันชิ้นที่จะสะสมอยู่ในร่างกายไปนานแสนนาน เราก็อาจต้องเริ่มคิดถึงการป้องกันมากกว่าการรอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ไข แม้กระทั่งในเรื่องเล็กๆ อย่างการเลือกใช้เครื่องครัวในบ้านเราเอง..อ้างอิง- Man Warns About 4 Toxic Items In Your Kitchen That Are Actually Harmful And Their Substitutes: Oleg Tarasenko and Denis Krotovas, Bored Panda - bit.ly/3HS7UdU - How does nonstick cookware work, and should you switch to ‘green’ pans?: Prachi Patel, C&EN - bit.ly/45Ke8FN ..#health #trend#missiontothemoon#missiontothemoonpodcast
2 days ago | [YT] | 84
View 1 reply
#missionชวนคุย มาแชร์กันว่า...ทักษะอะไรบ้างที่เด็กจบใหม่ควรมีรับประกันงานปังแน่นอน?
3 days ago | [YT] | 58
View 3 replies
“คิดว่าทฤษฎีที่ว่า ‘มนุษย์เรามีความสัมพันธ์กับผู้คนได้แค่ 150 คน’ ของนักมานุษยวิทยาที่ชื่อ Robin Dunbar ยังจริงอยู่ไหม?”.“ถ้าตอบจากมุมของตัวเอง คิดว่ามนุษย์คนหนึ่งสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีได้ไม่เยอะหรอก เอาจริงๆ 50 คนก็ส่งได้แล้ว เพราะว่าเราต้องการความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ เราไม่ต้องการปริมาณ”.“แต่ความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพต้องอาศัยการลงทุนลงแรง เราห่วงใยเขาหรือเปล่า? เรารู้ไหมว่าเขาชอบกินอะไร? ไม่ชอบอะไร? พูดอะไรกับเขาได้บ้าง? เคยทะเลาะกันมาแล้วคืนดีกันได้หรือเปล่า? เรื่องพวกนี้อาศัยระยะเวลาในการเรียนรู้ แต่มนุษย์คนหนึ่งมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมง เราไม่สามารถที่จะรู้จักรู้ใจผู้คนได้เยอะขนาดนั้น”.“ดังนั้นมันผกผันกันอยู่แล้ว เมื่อไรที่เรามีปริมาณคนรู้จักมากขึ้น เราจะมีคุณภาพความสัมพันธ์กับคนรู้จักทั้งหมดนั้นน้อยลง”.“แล้วคิดว่าผู้คนรอบตัวเรามีวงไหนบ้าง?”.“วงแรกคือวงที่ ‘สนิทที่สุด’ เราใช้เวลากับวงนี้เยอะที่สุด เช่น ครอบครัว ถ้าเป็นตอนวัยรุ่น เพื่อนๆ ก็จะอยู่ในวงนี้ด้วย แต่พอโตขึ้นไปเพื่อนๆ อาจจะขยับไปอยู่วงที่สอง เป็นวงของ ‘ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิท’ คือเจอกันก็ต่อติดเสมอ แต่อาจจะไม่ได้ใช้เวลา หรือคลุกคลีตีโมงด้วยกันบ่อยๆ แล้ว เพราะทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ของตัวเอง”.“ซึ่งการที่วงแรกจะมีสมาชิกเพิ่มเข้ามาสักหนึ่งคน มันต้องใช้เวลาและทรัพยากรที่สูงมาก อย่างเช่น จากเดิมที่ไม่มีแฟนก็มีแฟน หรือจากเดิมที่ไม่มีลูกก็มีลูก พอเราใช้ทรัพยากรกับวงแรกเยอะ วงอื่นก็จะหายๆ ไป”.“แต่สิ่งที่น่าสนใจวงที่สามหรือวงสุดท้าย ซึ่งไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นแค่ ‘คนรู้จัก’ สมัยก่อนคนรู้จักคือต้องเจอหน้ากัน รู้ว่าคนนี้เป็นใคร หรืออาจจะคุยกันได้นิดๆ หน่อยๆ แต่ตอนนี้วงนี้อาจจะขยายใหญ่ขึ้นเพราะโซเชียลมีเดีย” .“แต่รู้สึกว่าเรากำลัง ‘ขโมยเวลา’ จากคนสนิทคนใกล้ชิดในวงแรก มาให้กับคนรู้จักในวงนี้หรือเปล่า? ซึ่งผู้คนในวงที่สามไม่ค่อยมีความสำคัญกับชีวิตของเราเท่าไร หรืออาจจะมีแต่น้อย”.“แต่คำว่า ‘ไม่สำคัญ’ ก็มีคำถามเหมือนกัน เพราะโซเชียลมีเดียในยุคนี้ทำให้คนที่อยู่ในวงที่สาม ‘สำคัญ’ ขึ้นมา ในแง่ที่ว่าตัวตนในโซเชียลมีเดียของเราต้องการการสนับสนุนจากคนวงที่สาม เพราะคนจากวงแรกไม่พอ…ดีไม่ดีเขาไม่สนด้วย”.“ดีไม่ดี เราไม่อยากให้เขาเข้ามาด้วย”.“นี่เลยทำให้คนในวงที่สามสำคัญขึ้นมา แล้วเราก็ไปโอ๋เขาด้วย มันอาจจะไม่ผิดนะ แต่เวลาและทรัพยากรที่เราเอาไปใช้กับวงที่สามคือสิ่งที่เราดึงมากจากสองวงแรกที่สำคัญมากในชีวิตของเรา”.“แล้วมันก็ทำให้ความลึกซึ้งหรือความสัมพันธ์ของเรากับสองวงแรกอ่อนแอลงด้วยนะ”..บทสนทนาระหว่าง ‘แทป รวิศ หาญอุตสาหะ’ กับ ‘เอ๋ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์’ หรือ ‘นิ้วกลม’ ใน แอปเท๋ Dinner Talk EP.18 | เพื่อนแท้หรือแค่กดไลก์? เราเป็นตัวเองได้แค่ไหนในความสัมพันธ์ยุคโซเชียล? ที่จะชวนทุกคนหาคำตอบว่าเราควรจะบริหารความสัมพันธ์อย่างไร ในยุคที่ความสัมพันธ์ไร้พรมแดนอย่างนี้?.สามารถรับชม เพื่อนแท้หรือแค่กดไลก์? เราเป็นตัวเองได้แค่ไหนในความสัมพันธ์ยุคโซเชียล? | แอปเท๋ Dinner Talk EP.18 ฉบับเต็มได้ที่ : https://youtu.be/J0ANuzLoGO0..#ความสัมพันธ์#relationship#แอปเท๋dinnertalk#missiontothemoonpodcast
3 days ago | [YT] | 191
จะมีทางไหนที่เปิดสูตรลัดเร่งรวยให้ ‘เด็กจบใหม่’ ได้บ้าง?.เมื่อชีวิตนักเรียนนักศึกษาจบลง Gen Z จำนวนไม่น้อยพบว่าชีวิตคนวัยทำงานไม่ได้ง่ายอย่างที่เคยคิด และสำหรับบางคนแล้วอาจจะยากตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ ทั้งหางานยาก งานหนักแต่เงินน้อย ได้งานที่ไกลบ้านจนแทบรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ไหว และอีกหลายปัญหาที่ต้องเผชิญ.ท้ายที่สุด เมื่อหางานที่ชอบที่มีเงินเดือนในระดับที่ต้องการไม่ได้ Gen Z บางคนจึงเริ่มหันไปมองอาชีพอื่นที่ใครๆ ก็เข้ามาทำได้ ได้เงินดี และมีอิสระในการทำงานอย่าง ‘อาชีพนายหน้า’ กันมากขึ้น.จากการสำรวจในปี 2024 ของ National Association of Realtors' (NAR) หรือสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกันมักจะเป็นผู้หญิงผิวขาวอายุ 55 ปีที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและมีบ้านเป็นของตัวเอง.แต่ในปัจจุบันอาชีพนายหน้าเริ่มมีรูปแบบลักษณะที่แตกต่างออกไป โดย Gen Z ที่แม้ไม่ได้มีความรู้ หรือจบมหาวิทยาลัยในสาขาที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตรงเข้ามาทำงานในอาชีพนี้กันมากขึ้น.ทำไมอาชีพนี้ถึงเริ่มเพิ่มความนิยมในหมู่ Gen Z แล้วหนทางการเป็น ‘นายหน้า’ จะง่ายเหมือนที่ใครหลายคนคิดหรือไม่?..‘หวนคืนสู่อาชีพเก่า’ คือกระแสใหม่ของการเอาชนะ AI .ลองคิดดูว่าถ้าเรากำลังจะปรึกษา หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสำคัญอย่าง ‘บ้านหลังแรก’ ในชีวิตหรือ ‘ประกันสุขภาพ’ คุณจะกล้าคุยกับ AI อยู่ที่หน้าจอหรือเปล่า?.ในโลกยุคใหม่ที่ AI กำลังแทรกแซงตลาดแรงงานและแย่งงานเราไปทำ มีเพียงไม่กี่อาชีพเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดจากกระแสที่กำลังมาแรงของ AI ได้ ยกตัวอย่างเช่นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญสูง เช่น ช่างซ่อมอุปกรณ์ หรือช่างฝีมือ และหนึ่งในนั้นก็มีอาชีพนายหน้า หรือตัวแทนประกันด้วย.Toni Marmo ชาวอเมริกันกลุ่ม Gen Z ที่มีอายุเพียง 24 ปีเผยว่าเธอใช้ช่องทาง TikTok ที่มีผู้ติดตามถึง 40,000 คนในการสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองในฐานะ ‘นายหน้า’ และใช้หาลูกค้าที่อยู่ในบริเวณรัฐนิวเจอร์ซีย์.นอกเหนือจาก Marmo แล้ว Gen Z อีกไม่น้อยแม้แต่ในประเทศไทยเองก็เลือกที่จะละทิ้งปริญญาตรีที่ตรากตรำเรียนมาถึง 4 ปีเพื่อเลือกงานที่ทำให้พวกเขาได้เป็นอิสระจากการทำงานในบริษัท ได้เงินเร็วขึ้น และอยู่รอดได้โดยไม่ถูก AI แทรกแซง เหมือนอาชีพที่เคยได้รับความนิยมอย่างวิศวกรรมซอฟต์แวร์ การให้คำปรึกษา และการตลาด.โดยบางคนหันไปทำงานที่ใช้แรงงานฝีมือ (Blue Collar) เช่น การซ่อมเครื่องปรับอากาศและระบบทำความร้อน (HVAC) และการติดตั้งกังหันลม บางคนพยายามเริ่มกิจการของตัวเองด้วยการเป็นอินฟลูเอนเซอร์และหารายได้เสริม .และบางคนก็เห็นความน่าสนใจในงานที่ต้องมีใบอนุญาต (Licensed White-Collar Jobs) รวมถึงงานในวงการอสังหาริมทรัพย์และประกันอย่างที่เราเรียกติดปากกันว่า ‘นายหน้า’ นั่นเอง.โดย Gen Z ที่สนใจงานนายหน้าในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่อธิบายว่า งานนายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นงานที่ไม่มีเพดานรายได้จำกัด แทนที่จะต้องลงทุนด้วยเงินตัวเอง และไม่ต้องเรียนปริญญาตรีถึง 4 ปีด้วย กลับกันแล้วการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ยังใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถฝึกอบรมเพื่อรับใบอนุญาต และเริ่มทำงานในสายอาชีพนี้ได้แล้ว.สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นกระแสที่น่าสนใจตรงที่ว่า คนรุ่นใหม่ไม่ได้มองว่างานบริษัทหรืองานออฟฟิศเป็นงานที่ฝันอีกต่อไปแล้ว หลังจากต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงเพราะความผันผวนของเศรษฐกิจ พวกเขาอาจต้องเจอกับการเลิกจ้างครั้งใหญ่แม้จะเป็นแรงงานที่มีทักษะสูงก็ตาม .เพราะถึงแม้ว่าจะเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยและเป็นแรงงานที่มีทักษะในตลาดแรงงาน แต่จากผลสำรวจของ Gallup ในปี 2025 พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 42% เท่านั้นที่มีความเชื่อมั่นในการศึกษาระดับอุดมศึกษามากว่าจะสามารถช่วยให้รอดพ้นจากการว่างงาน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2015 ที่สูงถึง 57%.แม้แต่งานที่เคยได้รับความนิยม รวมถึงรับประกันความมั่นคงและรายได้อย่างงานในสายคอมพิวเตอร์หรือวิศวกรรม โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในปัจจุบันพบว่ามีอัตราการว่างงานสูงกว่าผู้ที่เรียนประวัติศาสตร์ศิลปะ วารสารศาสตร์ และศิลปะการแสดง ตามข้อมูลในปี 2023 จากธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก .อีกทั้งยุคนี้ยังเป็นยุคที่ความภักดีต่อองค์กรกำลังลดลงมากๆ เพราะคนรุ่นใหม่มีตัวเลือกมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เลยทำให้งานนายหน้าที่ยืดหยุ่นมากกว่า มีอิสระมากกว่า และมีรายได้สูงกว่าเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ..คนรุ่นเก่ากำลังไป คนรุ่นใหม่ก็พร้อม ‘แทนที่’.Blake Garrett ซีอีโอของ Aceable ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เน้นการออกใบอนุญาตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยและประกันภัย กล่าวว่า “ครึ่งหนึ่งของคนที่ลงเรียนหลักสูตรกับ Aceable มีอายุต่ำกว่า 30 ปี เนื่องจากงานในสายนี้เข้ากับคุณค่าสำคัญที่ Gen Z ยึดมั่น อย่างเช่น ความยืดหยุ่น ความเป็นอิสระ และรายได้สูง”.Garrett ยังกล่าวอีกว่า งาน ‘นายหน้า’ เป็นงานที่ยิ่งเราพยายามเท่าไร ก็จะยิ่งมีรายได้สูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งนี่อาจเป็นไปได้ยากกับงานออฟฟิศ หรืองานบริษัทส่วนใหญ่ ชาวอเมริกันที่กำลังสูญเสียความเชื่อมั่นจากการลงทุนในการศึกษาระดับปริญญาตรีจึงตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้กันมากขึ้น.อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของนายหน้าที่น่าเชื่อถือมักเป็นคนที่มีอายุ มีประสบการณ์ และเคยผ่านการใช้ชีวิตมามากประมาณหนึ่ง และการให้นายหน้าที่มีอายุเพียง 18-25 ปีเป็นผู้ช่วยให้การตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างการซื้ออสังหาริมทรัพย์ก็เป็นความคิดที่เสี่ยงมากในมุมมองของใครหลายคน และถึงแม้ว่าจะมีใบอนุญาตในการประกอบอาชีพ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่ได้วางใจมากนักจึงเป็นเรื่องยากสำหรับนายหน้ารุ่นใหม่อย่าง Gen Z ที่จะสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้า ด้วยเหตุนี้ Gen Z จำนวนไม่น้อยที่อยากก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพ ‘นายหน้า’ จึงใช้เครื่องมืออย่างโซเชียลมีเดียเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า และสร้างตัวตนในฐานะนายหน้า.นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้อุตสาหกรรมนี้ และอาชีพนายหน้ากลายเป็นที่สนใจของคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย เนื่องจากคนรุ่นใหม่เริ่มเสพคอนเทนต์ของตัวแทนผู้ขายที่อาจจะเป็นผู้หญิงและมีอายุน้อย แต่มีรายได้สูง ซึ่งนับว่าคอนเทนต์ประเภทนี้ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องงานไม่ตรงกับใจไม่น้อย.โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่กำลังกังวลกับกระแสของ AI และเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาอาจจะถูก AI เข้ามาแย่งงานในสักวันก็ได้ จากการสำรวจของ Handshake ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับหางานในกลุ่ม First Jobber พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยปี 2025 มากกว่า 60% ที่คุ้นเคยกับเครื่องมือ AI กล่าวว่าพวกเขากังวลว่า AI จะส่งผลกระทบต่อโอกาสในอาชีพของพวกเขาอย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 44% ในการสำรวจปี 2023.อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ AI ยังไม่ถือเป็นภัยคุกคามที่จะเข้ามาแทนที่คนทำงานในสายงานอย่างอสังหาริมทรัพย์และประกันภัยมากเท่ากับในสายเทคโนโลยี อีกทั้ง Jamie Behymer ผู้อำนวยการด้านความหลากหลายและเป็นตัวแทนรุ่นใหม่ที่ Big ‘I’ กล่าวว่า .“ธุรกิจนายหน้าประกันภัยเป็นงานที่ ‘เน้นการสื่อสารกับผู้คน’ และความสัมพันธ์คือสิ่งที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้” แม้ว่าตัวแทนอาจจะใช้ AI เพื่อช่วยในเรื่องงานเอกสารหรืองานที่น่าเบื่อ แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์มากกว่า AI.เท่านั้นยังไม่พอ จากข้อมูล NAR พบว่า สัดส่วนของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่อายุน้อยกว่า 30 ปีเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 4% ในปี 2024 และอยู่ที่ 3% ในปี 2025 .ในส่วนของตัวแทนประกัน จากการรายงานของสมาคมสำหรับตัวแทนประกันอิสระหรือ Big ‘I’ ในปี 2024 พบว่า อายุเฉลี่ยของเจ้าของบริษัทประกันที่มีหุ้น 20% ขึ้นไปคือคนที่อยู่ในช่วงอายุ 55 ปี โดย 22% ของเจ้าของมีอายุมากกว่า 66 ปี.จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าคนในวงการอาชีพตัวแทนประกันหลายคนน่าจะกำลังวางแผนเกษียณอายุ ซึ่งจะเปิดโอกาสครั้งใหญ่ให้คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z เข้ามาทำงานในอาชีพนี้กันมากขึ้นนั่นเอง..เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ หรืออุตสาหกรรมประกันสุขภาพก็ตาม อาชีพ ‘นายหน้า’ ในปัจจุบันกำลังกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ Gen Z เพราะเป็นงานที่ให้อิสระทางการเงินและความยืดหยุ่นในการทำงาน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เป็นงานที่ต้องอาศัย ทักษะความเป็นมนุษย์ (Human Skill) อย่างแท้จริง.ถึงแม้ว่า AI จะกำลังมีบทบาทในชีวิตของผู้คนมากขึ้น และแทรกแซงอาชีพของเราไม่น้อย แต่ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ ‘นายหน้า’ ซึ่งเป็นงานที่เน้นการสื่อสารอย่างมากกลับสามารถยืนหยัดต่อความเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ได้.สุดท้ายแล้วคำตอบที่ชัดเจนที่สุดของ ‘สูตรลัดทางรวย’ ในยุค AI อาจไม่ใช่แค่ความมั่นคงทางอาชีพ การหารายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือการสร้างอะไรใหม่ๆ ที่สามารถเอาชนะ AI ได้ .แต่เป็นการกลับไปหาคุณค่าแบบเดิมๆ ที่ทำให้คนได้เชื่อมโยงกันมากขึ้น และได้เจอกับ ‘คน’ ที่ช่วยให้เขาสามารถแก้ไขปัญหาหรือเติมเต็มความต้องการในใจของตัวเองได้อย่างแท้จริง..อ้างอิง- Gen Z wants to get rich quick. Some are finding it by selling insurance: Amanda Hoover, Business Insider - bit.ly/4mDG6Jf..#worklife#trend#missiontothemoon#missiontothemoonpodcast
4 days ago | [YT] | 74
เตรียมพบกับการคอลแลบสุดพิเศษ! Mission To The Moon Innergy Planner 2026 X Benzilla.ในโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันและคาดการณ์อะไรไม่ค่อยได้ ชีวิตของเราถูกขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายและภาระมากมาย ในแต่ละวันดำเนินไปด้วยความเร่งรีบ กดดัน และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่เพื่อความสำเร็จเหล่านั้น เราจึงลืมที่จะหันกลับมา ‘รักและดูแลตัวเอง’ อย่างแท้จริง.เราจึงอยากชวนทุกคนมาดูแลหัวใจของตัวเอง และพัฒนาชีวิตรอบด้านเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นั่นคือการบรรลุเป้าหมายของชีวิตในปี 2026 ของทุกคนกับ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 ในคอนเซปต์ “Where your mind, goals and soul meet. พื้นที่ประสานความคิด ชีวิต และเป้าหมาย” เล่มนี้.และแฟนคลับของครีเอเตอร์คนไทยต้องห้ามพลาด! MissionTo The Moon Innergy Planner 2026 ได้รับโอกาสสุดพิเศษคอลแลบกับศิลปินชื่อดัง ‘Benzilla’ .ซึ่งแพลนเนอร์อีดิชันพิเศษนี้มาพร้อมกับเพิ่มความสนุก สดใส และความไม่เหมือนใคร ผ่านลายเส้นและคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปิน Benzilla ที่สื่อถึงการให้ความสำคัญกับการสำรวจตัวเอง ได้คุยกับตัวเองผ่าน ‘โทรศัพท์แก้วน้ำ’ ที่เราคุ้นเคยและเคยเล่นในวัยเด็ก เพื่อให้ทุกคนได้พัฒนาชีวิตทั้งด้านจิตใจ การทำงาน และตัวเองได้ในทุกวัน..โดยปีนี้ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 มีด้วยกันทั้งหมด 5 สี โดยแต่ละสีสะท้อนถึงเรื่องราวและพลังที่แตกต่างกันไป .[ ] Midnight Blue ตัวแทนพลังแห่งความชัดเจนและความมั่นคงในใจ เหมือนสีของท้องฟ้าหรือมหาสมุทรที่ลึกซึ้ง หนักแน่น นิ่งสงบและทรงพลัง[ ] Sweet Plum เป็นพลังที่ช่วยปลอบโยนจิตใจ ชวนให้เราได้ ‘ฟังเสียงของตัวเอง’ ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการในแต่ละมิติของชีวิต[ ] Soft Beige มาพร้อมกับพลังแห่งความอบอุ่น และพร้อมเริ่มต้นใหม่เหมือนกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เป็นแดดแรกของวัน[ ] Blazing Red เต็มไปด้วยพลังของความกล้าหาญ ไฟที่ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจอันล้นปรี่ และความตั้งใจจริง[ ] Benzilla Edition การคอลแลบสุดพิเศษที่เพิ่มความสนุก สดใส และความไม่เหมือนใคร ผ่านลายเส้นและคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปิน Benzilla..⏰ เตรียมเป็นเจ้าของ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 ก่อนใคร ในราคาพิเศษรอบ Pre-Sale วันที่ 9 กันยายน - 10 ตุลาคม 2568.อย่าพลาดโอกาสเป็นเจ้าของ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 X Benzilla สุดพิเศษ เร็วๆ นี้!..#InnergyPlanner2026 #Benzilla#missiontothemoon#missiontothemoonpodcast
4 days ago | [YT] | 28
สวัสดีคร้าบทุกคน~ สมมูนขอมาประกาศรายชื่อผู้โชคดีจาก Comment ชวนคุย✨จาก เกษียณเร็วแต่อายุยืน อยู่อย่างไรให้มีคุณค่าหลัง 45? | Mission To The Moon EP.2486รายชื่อผู้ได้รับรางวัล SRICHAND Pure Kiss & First Kiss Brightening Lip Balm (รางวัลละ 2 ชิ้น) ทั้งหมด 30 ท่าน ได้แก่@Jamie_PP @bbkthy1a @Gooky651 @narangrith @panuwatful @Khem-Ann @l2andolpH @bknuijung @Nahvember @talktodrmai @pandache27 @tantantan59 @komchan666 @oatarun4015 @pandache27 @thongnualjrn @Cotton_99.99 @ลลิดาเปรมอาษา @nattaknp9284 @gibnarkveg462 @tooktasan9175 @lotsoandseal1A @suaokorglom22 @chayanitlao5651 @googlwdhhxjxjd672 @umapornmelux6855 @Tanomraksa_garden @PimprapaiSilawatshananai @sukhumarnphoethong6282 @jongkoncool.and.young.girl5542 รบกวนติดต่อรับรางวัลทาง Inbox FB Fanpage :: www.facebook.com/missiontothemoonofficial ภายในวันที่ 8 กันยายน 2568 เพื่อให้ทีมงานดำเนินการจัดส่งของรางวัลให้ทางไปรษณีย์ครับผม(สงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่รายงานตัวภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น)สมมูนขอขอบคุณแฟนรายการทุกท่านที่ซัปพอร์ต Mission To The Moon กันมาตลอดนะคร้าบ💙
5 days ago | [YT] | 50
View 6 replies
ชวนดู Mission To The Moon ‘Innergy’ Planner 2026 ทั้ง 4 สีและ Special Edition จาก Benzilla.โลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันอาจจะเหวี่ยงเราให้ต้องวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ เพื่อความสำเร็จที่คาดหวัง ยิ่งสำเร็จก็ยิ่งต้องปักหมุดหมายถัดไป จนบางครั้งก็หลงลืมที่จะหันกลับมา ‘ดูแลตัวเองอย่างแท้จริง’.จะดีกว่าไหมถ้าวันนี้เรามีตัวช่วยที่ทำให้ชีวิตโฟกัสเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองไปพร้อมกันด้วย?.Mission To The Moon Innergy Planner 2026 เพื่อนคู่คิดและพื้นที่เล็กๆ ที่ช่วยให้คุณได้กลับมาโฟกัสเป้าหมายได้ดีขึ้น ฟังเสียงความคิดได้ชัดเจนขึ้น และเติมพลังให้ตัวเองจาก ‘ภายใน’ สู่ภายนอก.โดยปีนี้ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 มาพร้อมกับ 5 สี 5 สไตล์ที่เกิดจากเรื่องราวและพลังที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าสีไหนสไตล์ไหนที่ใช่สำหรับคุณ?.[ ] Midnight Blue ตัวแทนพลังแห่งความชัดเจนและความมั่นคงในใจ เหมือนสีของท้องฟ้าหรือมหาสมุทรที่ลึกซึ้ง หนักแน่น นิ่งสงบและทรงพลัง[ ] Sweet Plum เป็นพลังที่ช่วยปลอบโยนจิตใจ ชวนให้เราได้ ‘ฟังเสียงของตัวเอง’ ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการในแต่ละมิติของชีวิต[ ] Soft Beige มาพร้อมกับพลังแห่งความอบอุ่น และพร้อมเริ่มต้นใหม่เหมือนกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เป็นแดดแรกของวัน[ ] Blazing Red เต็มไปด้วยพลังของความกล้าหาญ ไฟที่ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจอันล้นปรี่ และความตั้งใจจริง[ ] Benzilla Edition การคอลแลปสุดพิเศษที่เพิ่มความสนุก สดใส และความไม่เหมือนใคร ผ่านลายเส้นและคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปิน Benzilla..⏰ เตรียมเป็นเจ้าของ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 ก่อนใคร ในราคาพิเศษรอบ Pre-Sale วันที่ 9 กันยายน - 10 ตุลาคม 2568.เติมพลังและแรงบันดาลใจจาก ‘ภายใน’ สู่ภายนอก ด้วยสีที่ใช่และสไตล์ที่โดนใจคุณ!..#InnergyPlanner2026 #missiontothemoon#missiontothemoonpodcast
5 days ago | [YT] | 41
View 0 replies
#missionชวนคุย มาแชร์กันว่า...ขอ 1 ประโยคเตือนสติที่ปลดล็อกคุณจากการเป็น “People Pleaser”
6 days ago | [YT] | 110
View 14 replies
บางครั้งเมื่อใช้ KPI เป้าหมายอาจเน้นตัวเลขมากไปจนพนักงานรู้สึกกดดันและบางครั้งเมื่อใช้ OKRs เป้าหมายก็อาจดูท้าทายและเป็นนามธรรมเกินไป จนทีมไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไรดี.เจอปัญหาแบบนี้ไม่ได้ผิดที่ OKRs หรือ KPI แต่สะท้อนให้เห็นว่าเราอาจกำลังใช้ “ระบบวัดผล” ที่ไม่เหมาะกับลักษณะงาน และการที่จะเป็นองค์กรที่ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนได้ อาจต้องใช้ทั้ง OKRs และ KPI ร่วมกัน เพราะในขณะที่ KPI ช่วยรักษามาตรฐานนั้น OKRs ก็ทำหน้าที่จุดไฟให้ทีมมุ่งไปสู่การเติบโตและเสริมสร้างนวัตกรรม.🎯 OKRsเหมาะกับงานหรือทีมที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงและการเติบโต เช่น ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีมการตลาดที่ต้องการบุกตลาดใหม่ หรือองค์กรที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะ OKRs คือพลังขับเคลื่อนที่ทำให้ทีมก้าวออกจาก Comfort Zone และสร้างความก้าวหน้าที่วัดผลได้จริง.🚀 KPIเหมาะกับงานหรือทีมที่เน้นความเสถียรและประสิทธิภาพ เช่น ทีมปฏิบัติการ ฝ่ายขาย หรือฝ่ายการเงิน ซึ่งต้องติดตามผลการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดย KPI จะช่วยให้ทีมรักษามาตรฐานและปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ.มาทำความรู้จักระบบวัดผลทั้ง OKRs และ KPI และวิธีเลือกใช้ให้เหมาะสม กับคอร์ส “OKRs Mastery for Team Growth ตั้งเป้าหมายที่ใช่ จุดไฟให้ทีมอยากพัฒนา” พร้อมเจาะลึกเทคนิคการใช้ OKRs ปลดล็อกศักยภาพทีมงานและพาองค์กรมุ่งสู่ความสำเร็จแบบวัดผลการเติบโตได้จริง.ถ่ายทอดความรู้โดย “ศาสตราจารย์ ดร. นภดล ร่มโพธิ์” ผู้เชี่ยวชาญด้าน OKRs และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ “รวิศ หาญอุตสาหะ” CEO แห่งศรีจันทร์ และ Mission To The Moon.📌ราคาเพียง 1,990 บาท สมัครเรียนได้เลยที่ : academy.missiontothemoon.co/okrs-mastery-for-team-…..#OKRs#KPI#OKRsMasteryforTeamGrowth#MissionAcademy#MissionToTheMoon
1 week ago | [YT] | 58
Load more
Mission To The Moon
#missionชวนคุย มาแชร์กันว่า...
ข้ออ้างอะไรบ้างที่คุณเคยได้ยินในที่ทำงานที่ฟังแล้วรู้สึกว่าไม่เนียนที่สุด
1 day ago | [YT] | 76
View 2 replies
Mission To The Moon
เช้าวันหนึ่ง คุณยืนทำไข่ดาวในกระทะเทฟลอนที่ใช้มาได้สักพัก ไม่ได้สังเกตรอยขีดข่วนเล็กๆ ที่เกิดจากการใช้กระทะเป็นประจำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในทุกครั้งที่ทำอาหาร คุณอาจกำลังรับประทานไมโครพลาสติกเข้าไปในร่างกายโดยไม่รู้ตัว
.
การศึกษาครั้งสำคัญในปี 2022 จากนักวิจัยที่ University of Newcastle และ University of Queensland ที่ได้เผยแพร่ผลงานใน Science of The Total Environment วารสารระดับโลก ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงที่น่าตกใจเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในครัวบ้านของเราทุกวัน
.
นักวิจัยค้นพบว่า แค่รอยขีดข่วนเพียงเส้นเดียวบนผิวเคลือบเทฟลอน (PTFE - polytetrafluoroethylene) สามารถปล่อยอนุภาคไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกได้มหาศาลถึง 2,300 ถึง 9,100 อนุภาคในการใช้งานเพียงครั้งเดียว หากต้องการให้เห็นภาพ 9,100 อนุภาคไมโครพลาสติกนี้เทียบเท่ากับเม็ดเกลือหนึ่งช้อนชาครึ่ง ที่แตกต่างคือเกลือละลายได้ แต่ไมโครพลาสติกเหล่านี้จะค้างอยู่ในร่างกายไปตลอด โดยปริมาณที่แท้จริงขึ้นอยู่กับความลึกและขนาดของรอยขีดข่วนนั้น หากรอยข่วนยิ่งกว้างและลึกก็อาจสามารถปล่อยไมโครพลาสติกได้มากกว่า 2 ช้อนชา
.
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อเราใช้ช้อนตะหลิวโลหะขูดกระทะ หรือเปิดไฟแรงจนอุณหภูมิสูงเกิน 260 องศาเซลเซียส ปริมาณไมโครพลาสติกที่หลุดออกมาจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนทำกันเป็นปกติในการทำอาหารประจำวัน
.
.
วิกฤตครัวบ้าน เมื่อเขียงพลาสติกเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรกังวล
.
แต่ปัญหาไม่ได้จบแค่ที่กระทะเทฟลอนเท่านั้น เมื่อนักวิจัยหันไปศึกษาเขียงพลาสติกที่เราใช้หั่นผักผลไม้ทุกวัน ผลที่ได้ออกมายิ่งทำให้ต้องตกใจมากกว่าเดิม โดยการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Environmental Science and Technology พบว่า การใช้เขียงพลาสติกในชีวิตประจำวันทำให้เราได้รับไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายถึง 14-71 ล้านชิ้นต่อปี
.
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หากเปรียบเทียบปริมาณไมโครพลาสติกที่เราได้รับจากเขียงพลาสติกเพียงอย่างเดียว มันเท่ากับการที่เราหั่นบัตรเครดิต 10 ใบเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วกินลงไปในร่างกายทุกปี ลองนึกภาพดูว่าเราทำแบบนี้มาแล้วกี่ปี และจะสะสมไปอีกกี่ปีข้างหน้า
.
ไมโครพลาสติกเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เราจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย ปัญหาใหญ่ที่สุดคือพลาสติกเป็นสารที่ไม่สลายตัวตามธรรมชาติ หมายความว่าเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว มันจะค้างอยู่ในระบบต่างๆ ของร่างกายไปเป็นระยะเวลานาน บางครั้งอาจเป็นปีหรือทศวรรษ
.
.
เมื่อไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย จะเกิดอะไรขึ้น?
.
แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ยังคงทำการศึกษาผลกระทบต่อมนุษย์อย่างละเอียดต่อไป แต่การทดลองในสัตว์ได้เริ่มชี้ให้เห็นความเชื่อมโยงที่น่ากังวลหลายประการ ไมโครพลาสติกมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติของระบบฮอร์โมน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโต การสืบพันธุ์ และการทำงานของต่อมต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่าอาจก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย และในบางกรณีอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ในระดับที่อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว
.
สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อเรามองย้อนกลับไปดูประวัติของกระทะเทฟลอน ในอดีตกระทะเหล่านี้ใช้สารเคมีชื่อ PFOA (Perfluorooctanoic Acid) ในกระบวนการผลิตเคลือบ สารตัวนี้ปัจจุบันถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งที่มีความน่าจะเป็นสูงในมนุษย์ แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตจะได้หยุดใช้ PFOA ตั้งแต่ปี 2012 แล้ว แต่ก็หันไปใช้สารเคมีตัวใหม่ที่มีชื่อว่า GenX รวมไปถึงสาร PFAS ชนิดอื่นๆ ที่ยังไม่มีการศึกษาความปลอดภัยอย่างครอบคลุม
.
มีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจที่เรียกกันว่า "Teflon flu" ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีการสูดดมควันจากเทฟลอนที่ถูกทำให้ร้อนจัดเกินไป ผู้ที่ได้รับควันนี้จะมีอาการคล้ายกับการเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่จะหายเองได้ภายในไม่กี่วัน อย่างไรก็ตาม สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะนก ควันเทฟลอนนี้สามารถทำให้เสียชีวิตได้ทันที
.
.
ทางออกและทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งาน
.
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้เสนอแนวทางป้องกันและทางเลือกที่หลากหลาย สำหรับผู้ที่ยังต้องการใช้กระทะเทฟลอนต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนกระทะทันทีเมื่อเห็นรอยขีดข่วนหรือเคลือบเริ่มลอกออก การหลีกเลี่ยงเครื่องมือโลหะและหันมาใช้ช้อนตะหลิวไม้ พลาสติก หรือซิลิโคนแทน รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิการปรุงอาหารไม่ให้เกิน 260 องศาเซลเซียส
.
สำหรับผู้ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า กระทะสแตนเลสสตีล เหล็กหล่อ หรือเหล็กคาร์บอนเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม แม้ว่าในช่วงแรกจะต้องปรับเทคนิคการทำอาหารและอาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เพิ่มเติม แต่เครื่องครัวเหล่านี้สามารถใช้งานได้นานหลายทศวรรษและมีความปลอดภัยสูงกว่า
การเปลี่ยนแปลงไม่ได้หยุดแค่ที่กระทะ การเลือกใช้เขียงไม้แทนเขียงพลาสติกจะช่วยลดการได้รับไมโครพลาสติกอย่างมาก แม้ว่าเขียงไม้จะต้องมีการดูแลรักษามากกว่า เช่น การล้างด้วยน้ำส้มสายชูเป็นประจำเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ก็ปลอดภัยกว่ามาก
.
.
ทั่วโลกตื่นตัว ออกกฎหมายต่อต้าน PFAS
.
ปรากฏการณ์นี้ทำให้ทั่วโลกกำลังตื่นตัวกับปัญหาไมโครพลาสติกและสาร PFAS ในเครื่องครัว รัฐมินนิโซตาได้กลายเป็นรัฐแรกของสหรัฐอเมริกาที่ออกกฎหมายห้ามขายผลิตภัณฑ์ที่มีสาร PFAS รวมถึงเครื่องครัวด้วย รัฐอื่นๆ กำลังศึกษาและเตรียมออกกฎหมายในลักษณะเดียวกัน
.
ในทวีปยุโรป ประเทศฝรั่งเศสกำลังเตรียมใช้กฎหมายห้าม PFAS ตั้งแต่ปี 2026 แต่เนื่องจากแรงกดดันจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องครัวขนาดใหญ่อย่าง Tefal ทำให้ยังคงยกเว้นเครื่องครัวออกจากกฎหมายนี้ไว้ก่อน
.
สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคต้องระมัดระวังเป็นพิเศษคือกับดักทางการตลาดจากกระทะ "เซรามิก" ที่โฆษณาว่าเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ความจริงแล้วเคลือบ "เซรามิก" ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำจากเซรามิกแบบที่เราเข้าใจ แต่เป็นการผสมผสานระหว่าง siloxane กับ polydimethylsiloxane (PDMS) และนาโนอนุภาคแร่ธาตุต่างๆ
ที่น่ากังวลคือหลายแบรนด์ยังคงใช้สาร PFAS ในกระบวนการผลิต แม้จะติดฉลาก "เซรามิก" หรือ "PFOA-free" ก็ตาม ผู้บริโภคที่ต้องการหลีกเลี่ยงสาร PFAS ทั้งหมดควรมองหาฉลาก "fluorine-free" แทนการเชื่อฉลาบโฆษณาทั่วไป
.
.
เมื่อมองภาพรวมของปัญหานี้ เราจะเห็นว่าการเลือกใช้เครื่องครัวในยุคปัจจุบันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่เคยเป็น มันเป็นการชั่งน้ำหนักระหว่างความสะดวกในการใช้งาน ราคาที่จ่ายได้ และความปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว
.
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าใจความเสี่ยงที่แท้จริง และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับสถานการณ์และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ไม่ว่าจะเลือกทางไหน สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรลืมคือการทำอาหารเองที่บ้านยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการสั่งเดลิเวอรี่หรือซื้ออาหารสำเร็จรูปทุกมื้อ
.
รอยขีดข่วนเล็กๆ เพียงเส้นเดียวอาจดูไม่สำคัญ แต่เมื่อเรารู้ว่ามันสามารถปล่อยไมโครพลาสติกหลายพันชิ้นที่จะสะสมอยู่ในร่างกายไปนานแสนนาน เราก็อาจต้องเริ่มคิดถึงการป้องกันมากกว่าการรอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ไข แม้กระทั่งในเรื่องเล็กๆ อย่างการเลือกใช้เครื่องครัวในบ้านเราเอง
.
.
อ้างอิง
- Man Warns About 4 Toxic Items In Your Kitchen That Are Actually Harmful And Their Substitutes: Oleg Tarasenko and Denis Krotovas, Bored Panda - bit.ly/3HS7UdU
- How does nonstick cookware work, and should you switch to ‘green’ pans?: Prachi Patel, C&EN - bit.ly/45Ke8FN
.
.
#health
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
2 days ago | [YT] | 84
View 1 reply
Mission To The Moon
#missionชวนคุย มาแชร์กันว่า...
ทักษะอะไรบ้างที่เด็กจบใหม่ควรมี
รับประกันงานปังแน่นอน?
3 days ago | [YT] | 58
View 3 replies
Mission To The Moon
“คิดว่าทฤษฎีที่ว่า ‘มนุษย์เรามีความสัมพันธ์กับผู้คนได้แค่ 150 คน’ ของนักมานุษยวิทยาที่ชื่อ Robin Dunbar ยังจริงอยู่ไหม?”
.
“ถ้าตอบจากมุมของตัวเอง คิดว่ามนุษย์คนหนึ่งสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดีได้ไม่เยอะหรอก เอาจริงๆ 50 คนก็ส่งได้แล้ว เพราะว่าเราต้องการความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ เราไม่ต้องการปริมาณ”
.
“แต่ความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพต้องอาศัยการลงทุนลงแรง เราห่วงใยเขาหรือเปล่า? เรารู้ไหมว่าเขาชอบกินอะไร? ไม่ชอบอะไร? พูดอะไรกับเขาได้บ้าง? เคยทะเลาะกันมาแล้วคืนดีกันได้หรือเปล่า? เรื่องพวกนี้อาศัยระยะเวลาในการเรียนรู้ แต่มนุษย์คนหนึ่งมีเวลาแค่ 24 ชั่วโมง เราไม่สามารถที่จะรู้จักรู้ใจผู้คนได้เยอะขนาดนั้น”
.
“ดังนั้นมันผกผันกันอยู่แล้ว เมื่อไรที่เรามีปริมาณคนรู้จักมากขึ้น เราจะมีคุณภาพความสัมพันธ์กับคนรู้จักทั้งหมดนั้นน้อยลง”
.
“แล้วคิดว่าผู้คนรอบตัวเรามีวงไหนบ้าง?”
.
“วงแรกคือวงที่ ‘สนิทที่สุด’ เราใช้เวลากับวงนี้เยอะที่สุด เช่น ครอบครัว ถ้าเป็นตอนวัยรุ่น เพื่อนๆ ก็จะอยู่ในวงนี้ด้วย แต่พอโตขึ้นไปเพื่อนๆ อาจจะขยับไปอยู่วงที่สอง เป็นวงของ ‘ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิท’ คือเจอกันก็ต่อติดเสมอ แต่อาจจะไม่ได้ใช้เวลา หรือคลุกคลีตีโมงด้วยกันบ่อยๆ แล้ว เพราะทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ของตัวเอง”
.
“ซึ่งการที่วงแรกจะมีสมาชิกเพิ่มเข้ามาสักหนึ่งคน มันต้องใช้เวลาและทรัพยากรที่สูงมาก อย่างเช่น จากเดิมที่ไม่มีแฟนก็มีแฟน หรือจากเดิมที่ไม่มีลูกก็มีลูก พอเราใช้ทรัพยากรกับวงแรกเยอะ วงอื่นก็จะหายๆ ไป”
.
“แต่สิ่งที่น่าสนใจวงที่สามหรือวงสุดท้าย ซึ่งไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นแค่ ‘คนรู้จัก’ สมัยก่อนคนรู้จักคือต้องเจอหน้ากัน รู้ว่าคนนี้เป็นใคร หรืออาจจะคุยกันได้นิดๆ หน่อยๆ แต่ตอนนี้วงนี้อาจจะขยายใหญ่ขึ้นเพราะโซเชียลมีเดีย”
.
“แต่รู้สึกว่าเรากำลัง ‘ขโมยเวลา’ จากคนสนิทคนใกล้ชิดในวงแรก มาให้กับคนรู้จักในวงนี้หรือเปล่า? ซึ่งผู้คนในวงที่สามไม่ค่อยมีความสำคัญกับชีวิตของเราเท่าไร หรืออาจจะมีแต่น้อย”
.
“แต่คำว่า ‘ไม่สำคัญ’ ก็มีคำถามเหมือนกัน เพราะโซเชียลมีเดียในยุคนี้ทำให้คนที่อยู่ในวงที่สาม ‘สำคัญ’ ขึ้นมา ในแง่ที่ว่าตัวตนในโซเชียลมีเดียของเราต้องการการสนับสนุนจากคนวงที่สาม เพราะคนจากวงแรกไม่พอ…ดีไม่ดีเขาไม่สนด้วย”
.
“ดีไม่ดี เราไม่อยากให้เขาเข้ามาด้วย”
.
“นี่เลยทำให้คนในวงที่สามสำคัญขึ้นมา แล้วเราก็ไปโอ๋เขาด้วย มันอาจจะไม่ผิดนะ แต่เวลาและทรัพยากรที่เราเอาไปใช้กับวงที่สามคือสิ่งที่เราดึงมากจากสองวงแรกที่สำคัญมากในชีวิตของเรา”
.
“แล้วมันก็ทำให้ความลึกซึ้งหรือความสัมพันธ์ของเรากับสองวงแรกอ่อนแอลงด้วยนะ”
.
.
บทสนทนาระหว่าง ‘แทป รวิศ หาญอุตสาหะ’ กับ ‘เอ๋ สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์’ หรือ ‘นิ้วกลม’ ใน แอปเท๋ Dinner Talk EP.18 | เพื่อนแท้หรือแค่กดไลก์? เราเป็นตัวเองได้แค่ไหนในความสัมพันธ์ยุคโซเชียล? ที่จะชวนทุกคนหาคำตอบว่าเราควรจะบริหารความสัมพันธ์อย่างไร ในยุคที่ความสัมพันธ์ไร้พรมแดนอย่างนี้?
.
สามารถรับชม เพื่อนแท้หรือแค่กดไลก์? เราเป็นตัวเองได้แค่ไหนในความสัมพันธ์ยุคโซเชียล? | แอปเท๋ Dinner Talk EP.18 ฉบับเต็มได้ที่ : https://youtu.be/J0ANuzLoGO0
.
.
#ความสัมพันธ์
#relationship
#แอปเท๋dinnertalk
#missiontothemoonpodcast
3 days ago | [YT] | 191
View 2 replies
Mission To The Moon
จะมีทางไหนที่เปิดสูตรลัดเร่งรวยให้ ‘เด็กจบใหม่’ ได้บ้าง?
.
เมื่อชีวิตนักเรียนนักศึกษาจบลง Gen Z จำนวนไม่น้อยพบว่าชีวิตคนวัยทำงานไม่ได้ง่ายอย่างที่เคยคิด และสำหรับบางคนแล้วอาจจะยากตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยด้วยซ้ำ ทั้งหางานยาก งานหนักแต่เงินน้อย ได้งานที่ไกลบ้านจนแทบรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ไหว และอีกหลายปัญหาที่ต้องเผชิญ
.
ท้ายที่สุด เมื่อหางานที่ชอบที่มีเงินเดือนในระดับที่ต้องการไม่ได้ Gen Z บางคนจึงเริ่มหันไปมองอาชีพอื่นที่ใครๆ ก็เข้ามาทำได้ ได้เงินดี และมีอิสระในการทำงานอย่าง ‘อาชีพนายหน้า’ กันมากขึ้น
.
จากการสำรวจในปี 2024 ของ National Association of Realtors' (NAR) หรือสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกันมักจะเป็นผู้หญิงผิวขาวอายุ 55 ปีที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและมีบ้านเป็นของตัวเอง
.
แต่ในปัจจุบันอาชีพนายหน้าเริ่มมีรูปแบบลักษณะที่แตกต่างออกไป โดย Gen Z ที่แม้ไม่ได้มีความรู้ หรือจบมหาวิทยาลัยในสาขาที่เกี่ยวกับผู้ประกอบการหรืออสังหาริมทรัพย์โดยตรงเข้ามาทำงานในอาชีพนี้กันมากขึ้น
.
ทำไมอาชีพนี้ถึงเริ่มเพิ่มความนิยมในหมู่ Gen Z แล้วหนทางการเป็น ‘นายหน้า’ จะง่ายเหมือนที่ใครหลายคนคิดหรือไม่?
.
.
‘หวนคืนสู่อาชีพเก่า’ คือกระแสใหม่ของการเอาชนะ AI
.
ลองคิดดูว่าถ้าเรากำลังจะปรึกษา หรือหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสำคัญอย่าง ‘บ้านหลังแรก’ ในชีวิตหรือ ‘ประกันสุขภาพ’ คุณจะกล้าคุยกับ AI อยู่ที่หน้าจอหรือเปล่า?
.
ในโลกยุคใหม่ที่ AI กำลังแทรกแซงตลาดแรงงานและแย่งงานเราไปทำ มีเพียงไม่กี่อาชีพเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดจากกระแสที่กำลังมาแรงของ AI ได้ ยกตัวอย่างเช่นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญสูง เช่น ช่างซ่อมอุปกรณ์ หรือช่างฝีมือ และหนึ่งในนั้นก็มีอาชีพนายหน้า หรือตัวแทนประกันด้วย
.
Toni Marmo ชาวอเมริกันกลุ่ม Gen Z ที่มีอายุเพียง 24 ปีเผยว่าเธอใช้ช่องทาง TikTok ที่มีผู้ติดตามถึง 40,000 คนในการสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองในฐานะ ‘นายหน้า’ และใช้หาลูกค้าที่อยู่ในบริเวณรัฐนิวเจอร์ซีย์
.
นอกเหนือจาก Marmo แล้ว Gen Z อีกไม่น้อยแม้แต่ในประเทศไทยเองก็เลือกที่จะละทิ้งปริญญาตรีที่ตรากตรำเรียนมาถึง 4 ปีเพื่อเลือกงานที่ทำให้พวกเขาได้เป็นอิสระจากการทำงานในบริษัท ได้เงินเร็วขึ้น และอยู่รอดได้โดยไม่ถูก AI แทรกแซง เหมือนอาชีพที่เคยได้รับความนิยมอย่างวิศวกรรมซอฟต์แวร์ การให้คำปรึกษา และการตลาด
.
โดยบางคนหันไปทำงานที่ใช้แรงงานฝีมือ (Blue Collar) เช่น การซ่อมเครื่องปรับอากาศและระบบทำความร้อน (HVAC) และการติดตั้งกังหันลม บางคนพยายามเริ่มกิจการของตัวเองด้วยการเป็นอินฟลูเอนเซอร์และหารายได้เสริม
.
และบางคนก็เห็นความน่าสนใจในงานที่ต้องมีใบอนุญาต (Licensed White-Collar Jobs) รวมถึงงานในวงการอสังหาริมทรัพย์และประกันอย่างที่เราเรียกติดปากกันว่า ‘นายหน้า’ นั่นเอง
.
โดย Gen Z ที่สนใจงานนายหน้าในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่อธิบายว่า งานนายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นงานที่ไม่มีเพดานรายได้จำกัด แทนที่จะต้องลงทุนด้วยเงินตัวเอง และไม่ต้องเรียนปริญญาตรีถึง 4 ปีด้วย กลับกันแล้วการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ยังใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถฝึกอบรมเพื่อรับใบอนุญาต และเริ่มทำงานในสายอาชีพนี้ได้แล้ว
.
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นกระแสที่น่าสนใจตรงที่ว่า คนรุ่นใหม่ไม่ได้มองว่างานบริษัทหรืองานออฟฟิศเป็นงานที่ฝันอีกต่อไปแล้ว หลังจากต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงเพราะความผันผวนของเศรษฐกิจ พวกเขาอาจต้องเจอกับการเลิกจ้างครั้งใหญ่แม้จะเป็นแรงงานที่มีทักษะสูงก็ตาม
.
เพราะถึงแม้ว่าจะเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยและเป็นแรงงานที่มีทักษะในตลาดแรงงาน แต่จากผลสำรวจของ Gallup ในปี 2025 พบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 42% เท่านั้นที่มีความเชื่อมั่นในการศึกษาระดับอุดมศึกษามากว่าจะสามารถช่วยให้รอดพ้นจากการว่างงาน ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2015 ที่สูงถึง 57%
.
แม้แต่งานที่เคยได้รับความนิยม รวมถึงรับประกันความมั่นคงและรายได้อย่างงานในสายคอมพิวเตอร์หรือวิศวกรรม โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในปัจจุบันพบว่ามีอัตราการว่างงานสูงกว่าผู้ที่เรียนประวัติศาสตร์ศิลปะ วารสารศาสตร์ และศิลปะการแสดง ตามข้อมูลในปี 2023 จากธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์ก
.
อีกทั้งยุคนี้ยังเป็นยุคที่ความภักดีต่อองค์กรกำลังลดลงมากๆ เพราะคนรุ่นใหม่มีตัวเลือกมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เลยทำให้งานนายหน้าที่ยืดหยุ่นมากกว่า มีอิสระมากกว่า และมีรายได้สูงกว่าเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
.
.
คนรุ่นเก่ากำลังไป คนรุ่นใหม่ก็พร้อม ‘แทนที่’
.
Blake Garrett ซีอีโอของ Aceable ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เน้นการออกใบอนุญาตในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อที่อยู่อาศัยและประกันภัย กล่าวว่า “ครึ่งหนึ่งของคนที่ลงเรียนหลักสูตรกับ Aceable มีอายุต่ำกว่า 30 ปี เนื่องจากงานในสายนี้เข้ากับคุณค่าสำคัญที่ Gen Z ยึดมั่น อย่างเช่น ความยืดหยุ่น ความเป็นอิสระ และรายได้สูง”
.
Garrett ยังกล่าวอีกว่า งาน ‘นายหน้า’ เป็นงานที่ยิ่งเราพยายามเท่าไร ก็จะยิ่งมีรายได้สูงขึ้นเท่านั้น ซึ่งนี่อาจเป็นไปได้ยากกับงานออฟฟิศ หรืองานบริษัทส่วนใหญ่ ชาวอเมริกันที่กำลังสูญเสียความเชื่อมั่นจากการลงทุนในการศึกษาระดับปริญญาตรีจึงตัดสินใจเลือกเส้นทางนี้กันมากขึ้น
.
อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ของนายหน้าที่น่าเชื่อถือมักเป็นคนที่มีอายุ มีประสบการณ์ และเคยผ่านการใช้ชีวิตมามากประมาณหนึ่ง และการให้นายหน้าที่มีอายุเพียง 18-25 ปีเป็นผู้ช่วยให้การตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างการซื้ออสังหาริมทรัพย์ก็เป็นความคิดที่เสี่ยงมากในมุมมองของใครหลายคน และถึงแม้ว่าจะมีใบอนุญาตในการประกอบอาชีพ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็อาจจะไม่ได้วางใจมากนัก
จึงเป็นเรื่องยากสำหรับนายหน้ารุ่นใหม่อย่าง Gen Z ที่จะสร้างความเชื่อใจให้กับลูกค้า ด้วยเหตุนี้ Gen Z จำนวนไม่น้อยที่อยากก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพ ‘นายหน้า’ จึงใช้เครื่องมืออย่างโซเชียลมีเดียเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า และสร้างตัวตนในฐานะนายหน้า
.
นอกจากนี้ โซเชียลมีเดียยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้อุตสาหกรรมนี้ และอาชีพนายหน้ากลายเป็นที่สนใจของคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย เนื่องจากคนรุ่นใหม่เริ่มเสพคอนเทนต์ของตัวแทนผู้ขายที่อาจจะเป็นผู้หญิงและมีอายุน้อย แต่มีรายได้สูง ซึ่งนับว่าคอนเทนต์ประเภทนี้ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นใหม่ที่กำลังประสบปัญหาในเรื่องงานไม่ตรงกับใจไม่น้อย
.
โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ที่กำลังกังวลกับกระแสของ AI และเป็นไปได้สูงว่าพวกเขาอาจจะถูก AI เข้ามาแย่งงานในสักวันก็ได้ จากการสำรวจของ Handshake ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับหางานในกลุ่ม First Jobber พบว่านักศึกษามหาวิทยาลัยปี 2025 มากกว่า 60% ที่คุ้นเคยกับเครื่องมือ AI กล่าวว่าพวกเขากังวลว่า AI จะส่งผลกระทบต่อโอกาสในอาชีพของพวกเขาอย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 44% ในการสำรวจปี 2023
.
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ AI ยังไม่ถือเป็นภัยคุกคามที่จะเข้ามาแทนที่คนทำงานในสายงานอย่างอสังหาริมทรัพย์และประกันภัยมากเท่ากับในสายเทคโนโลยี อีกทั้ง Jamie Behymer ผู้อำนวยการด้านความหลากหลายและเป็นตัวแทนรุ่นใหม่ที่ Big ‘I’ กล่าวว่า
.
“ธุรกิจนายหน้าประกันภัยเป็นงานที่ ‘เน้นการสื่อสารกับผู้คน’ และความสัมพันธ์คือสิ่งที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้” แม้ว่าตัวแทนอาจจะใช้ AI เพื่อช่วยในเรื่องงานเอกสารหรืองานที่น่าเบื่อ แต่ก็เป็นอุตสาหกรรมที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์มากกว่า AI
.
เท่านั้นยังไม่พอ จากข้อมูล NAR พบว่า สัดส่วนของนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่อายุน้อยกว่า 30 ปีเพิ่มขึ้นจาก 1% เป็น 4% ในปี 2024 และอยู่ที่ 3% ในปี 2025
.
ในส่วนของตัวแทนประกัน จากการรายงานของสมาคมสำหรับตัวแทนประกันอิสระหรือ Big ‘I’ ในปี 2024 พบว่า อายุเฉลี่ยของเจ้าของบริษัทประกันที่มีหุ้น 20% ขึ้นไปคือคนที่อยู่ในช่วงอายุ 55 ปี โดย 22% ของเจ้าของมีอายุมากกว่า 66 ปี
.
จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่าคนในวงการอาชีพตัวแทนประกันหลายคนน่าจะกำลังวางแผนเกษียณอายุ ซึ่งจะเปิดโอกาสครั้งใหญ่ให้คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z เข้ามาทำงานในอาชีพนี้กันมากขึ้นนั่นเอง
.
.
เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ หรืออุตสาหกรรมประกันสุขภาพก็ตาม อาชีพ ‘นายหน้า’ ในปัจจุบันกำลังกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับ Gen Z เพราะเป็นงานที่ให้อิสระทางการเงินและความยืดหยุ่นในการทำงาน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เป็นงานที่ต้องอาศัย ทักษะความเป็นมนุษย์ (Human Skill) อย่างแท้จริง
.
ถึงแม้ว่า AI จะกำลังมีบทบาทในชีวิตของผู้คนมากขึ้น และแทรกแซงอาชีพของเราไม่น้อย แต่ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ ‘นายหน้า’ ซึ่งเป็นงานที่เน้นการสื่อสารอย่างมากกลับสามารถยืนหยัดต่อความเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ได้
.
สุดท้ายแล้วคำตอบที่ชัดเจนที่สุดของ ‘สูตรลัดทางรวย’ ในยุค AI อาจไม่ใช่แค่ความมั่นคงทางอาชีพ การหารายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือการสร้างอะไรใหม่ๆ ที่สามารถเอาชนะ AI ได้
.
แต่เป็นการกลับไปหาคุณค่าแบบเดิมๆ ที่ทำให้คนได้เชื่อมโยงกันมากขึ้น และได้เจอกับ ‘คน’ ที่ช่วยให้เขาสามารถแก้ไขปัญหาหรือเติมเต็มความต้องการในใจของตัวเองได้อย่างแท้จริง
.
.
อ้างอิง
- Gen Z wants to get rich quick. Some are finding it by selling insurance: Amanda Hoover, Business Insider - bit.ly/4mDG6Jf
.
.
#worklife
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
4 days ago | [YT] | 74
View 1 reply
Mission To The Moon
เตรียมพบกับการคอลแลบสุดพิเศษ! Mission To The Moon Innergy Planner 2026 X Benzilla
.
ในโลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันและคาดการณ์อะไรไม่ค่อยได้ ชีวิตของเราถูกขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายและภาระมากมาย ในแต่ละวันดำเนินไปด้วยความเร่งรีบ กดดัน และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แต่เพื่อความสำเร็จเหล่านั้น เราจึงลืมที่จะหันกลับมา ‘รักและดูแลตัวเอง’ อย่างแท้จริง
.
เราจึงอยากชวนทุกคนมาดูแลหัวใจของตัวเอง และพัฒนาชีวิตรอบด้านเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นั่นคือการบรรลุเป้าหมายของชีวิตในปี 2026 ของทุกคนกับ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 ในคอนเซปต์ “Where your mind, goals and soul meet. พื้นที่ประสานความคิด ชีวิต และเป้าหมาย” เล่มนี้
.
และแฟนคลับของครีเอเตอร์คนไทยต้องห้ามพลาด! MissionTo The Moon Innergy Planner 2026 ได้รับโอกาสสุดพิเศษคอลแลบกับศิลปินชื่อดัง ‘Benzilla’
.
ซึ่งแพลนเนอร์อีดิชันพิเศษนี้มาพร้อมกับเพิ่มความสนุก สดใส และความไม่เหมือนใคร ผ่านลายเส้นและคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปิน Benzilla ที่สื่อถึงการให้ความสำคัญกับการสำรวจตัวเอง ได้คุยกับตัวเองผ่าน ‘โทรศัพท์แก้วน้ำ’ ที่เราคุ้นเคยและเคยเล่นในวัยเด็ก เพื่อให้ทุกคนได้พัฒนาชีวิตทั้งด้านจิตใจ การทำงาน และตัวเองได้ในทุกวัน
.
.
โดยปีนี้ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 มีด้วยกันทั้งหมด 5 สี โดยแต่ละสีสะท้อนถึงเรื่องราวและพลังที่แตกต่างกันไป
.
[ ] Midnight Blue ตัวแทนพลังแห่งความชัดเจนและความมั่นคงในใจ เหมือนสีของท้องฟ้าหรือมหาสมุทรที่ลึกซึ้ง หนักแน่น นิ่งสงบและทรงพลัง
[ ] Sweet Plum เป็นพลังที่ช่วยปลอบโยนจิตใจ ชวนให้เราได้ ‘ฟังเสียงของตัวเอง’ ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการในแต่ละมิติของชีวิต
[ ] Soft Beige มาพร้อมกับพลังแห่งความอบอุ่น และพร้อมเริ่มต้นใหม่เหมือนกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เป็นแดดแรกของวัน
[ ] Blazing Red เต็มไปด้วยพลังของความกล้าหาญ ไฟที่ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจอันล้นปรี่ และความตั้งใจจริง
[ ] Benzilla Edition การคอลแลบสุดพิเศษที่เพิ่มความสนุก สดใส และความไม่เหมือนใคร ผ่านลายเส้นและคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปิน Benzilla
.
.
⏰ เตรียมเป็นเจ้าของ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 ก่อนใคร ในราคาพิเศษรอบ Pre-Sale วันที่ 9 กันยายน - 10 ตุลาคม 2568
.
อย่าพลาดโอกาสเป็นเจ้าของ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 X Benzilla สุดพิเศษ เร็วๆ นี้!
.
.
#InnergyPlanner2026
#Benzilla
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
4 days ago | [YT] | 28
View 1 reply
Mission To The Moon
สวัสดีคร้าบทุกคน~ สมมูนขอมาประกาศรายชื่อผู้โชคดีจาก Comment ชวนคุย✨
จาก เกษียณเร็วแต่อายุยืน อยู่อย่างไรให้มีคุณค่าหลัง 45? | Mission To The Moon EP.2486
รายชื่อผู้ได้รับรางวัล SRICHAND Pure Kiss & First Kiss Brightening Lip Balm (รางวัลละ 2 ชิ้น) ทั้งหมด 30 ท่าน ได้แก่
@Jamie_PP
@bbkthy1a
@Gooky651
@narangrith
@panuwatful
@Khem-Ann
@l2andolpH
@bknuijung
@Nahvember
@talktodrmai
@pandache27
@tantantan59
@komchan666
@oatarun4015
@pandache27
@thongnualjrn
@Cotton_99.99
@ลลิดาเปรมอาษา
@nattaknp9284
@gibnarkveg462
@tooktasan9175
@lotsoandseal1A
@suaokorglom22
@chayanitlao5651
@googlwdhhxjxjd672
@umapornmelux6855
@Tanomraksa_garden
@PimprapaiSilawatshananai
@sukhumarnphoethong6282
@jongkoncool.and.young.girl5542
รบกวนติดต่อรับรางวัลทาง Inbox FB Fanpage :: www.facebook.com/missiontothemoonofficial ภายในวันที่ 8 กันยายน 2568 เพื่อให้ทีมงานดำเนินการจัดส่งของรางวัลให้ทางไปรษณีย์ครับผม
(สงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่รายงานตัวภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้น)
สมมูนขอขอบคุณแฟนรายการทุกท่านที่ซัปพอร์ต Mission To The Moon กันมาตลอดนะคร้าบ💙
5 days ago | [YT] | 50
View 6 replies
Mission To The Moon
ชวนดู Mission To The Moon ‘Innergy’ Planner 2026 ทั้ง 4 สีและ Special Edition จาก Benzilla
.
โลกที่หมุนเร็วขึ้นทุกวันอาจจะเหวี่ยงเราให้ต้องวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ เพื่อความสำเร็จที่คาดหวัง ยิ่งสำเร็จก็ยิ่งต้องปักหมุดหมายถัดไป จนบางครั้งก็หลงลืมที่จะหันกลับมา ‘ดูแลตัวเองอย่างแท้จริง’
.
จะดีกว่าไหมถ้าวันนี้เรามีตัวช่วยที่ทำให้ชีวิตโฟกัสเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองไปพร้อมกันด้วย?
.
Mission To The Moon Innergy Planner 2026 เพื่อนคู่คิดและพื้นที่เล็กๆ ที่ช่วยให้คุณได้กลับมาโฟกัสเป้าหมายได้ดีขึ้น ฟังเสียงความคิดได้ชัดเจนขึ้น และเติมพลังให้ตัวเองจาก ‘ภายใน’ สู่ภายนอก
.
โดยปีนี้ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 มาพร้อมกับ 5 สี 5 สไตล์ที่เกิดจากเรื่องราวและพลังที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าสีไหนสไตล์ไหนที่ใช่สำหรับคุณ?
.
[ ] Midnight Blue ตัวแทนพลังแห่งความชัดเจนและความมั่นคงในใจ เหมือนสีของท้องฟ้าหรือมหาสมุทรที่ลึกซึ้ง หนักแน่น นิ่งสงบและทรงพลัง
[ ] Sweet Plum เป็นพลังที่ช่วยปลอบโยนจิตใจ ชวนให้เราได้ ‘ฟังเสียงของตัวเอง’ ว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการในแต่ละมิติของชีวิต
[ ] Soft Beige มาพร้อมกับพลังแห่งความอบอุ่น และพร้อมเริ่มต้นใหม่เหมือนกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่เป็นแดดแรกของวัน
[ ] Blazing Red เต็มไปด้วยพลังของความกล้าหาญ ไฟที่ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจอันล้นปรี่ และความตั้งใจจริง
[ ] Benzilla Edition การคอลแลปสุดพิเศษที่เพิ่มความสนุก สดใส และความไม่เหมือนใคร ผ่านลายเส้นและคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปิน Benzilla
.
.
⏰ เตรียมเป็นเจ้าของ Mission To The Moon Innergy Planner 2026 ก่อนใคร ในราคาพิเศษรอบ Pre-Sale วันที่ 9 กันยายน - 10 ตุลาคม 2568
.
เติมพลังและแรงบันดาลใจจาก ‘ภายใน’ สู่ภายนอก ด้วยสีที่ใช่และสไตล์ที่โดนใจคุณ!
.
.
#InnergyPlanner2026
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
5 days ago | [YT] | 41
View 0 replies
Mission To The Moon
#missionชวนคุย มาแชร์กันว่า...
ขอ 1 ประโยคเตือนสติ
ที่ปลดล็อกคุณจากการเป็น “People Pleaser”
6 days ago | [YT] | 110
View 14 replies
Mission To The Moon
บางครั้งเมื่อใช้ KPI เป้าหมายอาจเน้นตัวเลขมากไปจนพนักงานรู้สึกกดดัน
และบางครั้งเมื่อใช้ OKRs เป้าหมายก็อาจดูท้าทายและเป็นนามธรรมเกินไป จนทีมไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไรดี
.
เจอปัญหาแบบนี้ไม่ได้ผิดที่ OKRs หรือ KPI แต่สะท้อนให้เห็นว่าเราอาจกำลังใช้ “ระบบวัดผล” ที่ไม่เหมาะกับลักษณะงาน และการที่จะเป็นองค์กรที่ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนได้ อาจต้องใช้ทั้ง OKRs และ KPI ร่วมกัน เพราะในขณะที่ KPI ช่วยรักษามาตรฐานนั้น OKRs ก็ทำหน้าที่จุดไฟให้ทีมมุ่งไปสู่การเติบโตและเสริมสร้างนวัตกรรม
.
🎯 OKRs
เหมาะกับงานหรือทีมที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงและการเติบโต เช่น ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทีมการตลาดที่ต้องการบุกตลาดใหม่ หรือองค์กรที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะ OKRs คือพลังขับเคลื่อนที่ทำให้ทีมก้าวออกจาก Comfort Zone และสร้างความก้าวหน้าที่วัดผลได้จริง
.
🚀 KPI
เหมาะกับงานหรือทีมที่เน้นความเสถียรและประสิทธิภาพ เช่น ทีมปฏิบัติการ ฝ่ายขาย หรือฝ่ายการเงิน ซึ่งต้องติดตามผลการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดย KPI จะช่วยให้ทีมรักษามาตรฐานและปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
.
มาทำความรู้จักระบบวัดผลทั้ง OKRs และ KPI และวิธีเลือกใช้ให้เหมาะสม กับคอร์ส “OKRs Mastery for Team Growth ตั้งเป้าหมายที่ใช่ จุดไฟให้ทีมอยากพัฒนา” พร้อมเจาะลึกเทคนิคการใช้ OKRs ปลดล็อกศักยภาพทีมงานและพาองค์กรมุ่งสู่ความสำเร็จแบบวัดผลการเติบโตได้จริง
.
ถ่ายทอดความรู้โดย “ศาสตราจารย์ ดร. นภดล ร่มโพธิ์” ผู้เชี่ยวชาญด้าน OKRs และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ “รวิศ หาญอุตสาหะ” CEO แห่งศรีจันทร์ และ Mission To The Moon
.
📌ราคาเพียง 1,990 บาท สมัครเรียนได้เลยที่ : academy.missiontothemoon.co/okrs-mastery-for-team-…
.
.
#OKRs
#KPI
#OKRsMasteryforTeamGrowth
#MissionAcademy
#MissionToTheMoon
1 week ago | [YT] | 58
View 0 replies
Load more