มือใหม่หลวงพ่อเทียน
[โพสต์ที่ 196] ข้อความจากญาติธรรม : ผมสงสัยครับ ทำไมพอเอาสติไปจับอารมณ์แล้ว อารมณ์มันจึงหายไปเองอัตโนมัติครับ กระบวนการนี้เรียกว่าอะไรครับ? แล้วถ้าเราเอาสติไปจับอารมณ์ได้ทุกครั้ง แสดงว่าต่อไปอารมณ์ก็หายไปทุกครั้งเลย เราก็จะเป็นผู้ไร้อารมณ์ใช่ไหมครับ? ผมถามในฐานะมนุษย์ที่ยังโง่เขลาคนหนึ่ง ช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยนะครับ กราบสาธุ 🙏🏼 --------------------ข้อความตอบกลับจาก "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" : คำถามนี้ ถ้าจะเข้าถึงคำตอบได้อย่างแท้จริง ต้องทำด้วยการลงมือฝึกฝนตามหลักสติปัฏฐาน พอฝึกฝนจนพัฒนาอย่างถูกต้องไปเรื่อยๆ ก็จะไปสัมผัสสภาวะนี้ได้ด้วยตนเองครับ แต่จะขอให้ข้อมูลไว้คร่าวๆ เท่าที่ได้รับรู้มาจากครูอาจารย์ต่างๆ นะครับ^^ ต้องขอถามว่า ได้ฝึกฝนภาวนาตามหลักสติปัฏฐานอยู่ใช่มั้ยครับ? เพราะข้อสงสัยที่ถามไว้ ถือเป็นหลักการพื้นฐานของสติปัฏฐานครับ หากไม่ได้ฝึกสติปัฏฐาน หรือฝึกอยู่ แต่ยังไม่เข้าใจหลักการ ยังไม่เข้าใจวิธีฝึกที่ถูกต้อง ก็อาจทำให้ยังสับสนได้อยู่ครับ ในแง่หลักการ ถ้าเขียนแบบสั้นๆ คือ ถ้าฝึกสติปัฏฐานจนพัฒนาก้าวหน้ามากขึ้น สติจะมีพลัง จะว่องไว แล้วจะไป "รู้ทัน" อารมณ์/ความคิด/ความรู้สึกต่างๆ ที่มันผุดขึ้นในใจ"รู้ทัน" ว่า ขณะนี้ ใจกำลังเผลอคิดฟุ้งซ่าน หรือ ขณะนี้กำลังรู้สึก กำลังมีอารมณ์เกิดขึ้นในใจแล้วก็หาทางรับมือกับอาการต่างๆ ของใจได้อย่างเหมาะสมเมื่อพัฒนาสติไปเรื่อยๆ ก็จะ "รู้ทัน" ได้ไวขึ้นเรื่อยๆ บ่อยขึ้นเรื่อยๆ หรือเมื่อพัฒนาสติไปจนถึงขั้นก้าวหน้ามากพอสมควร....พอ "รู้ทัน" ว่ามีความคิด/อารมณ์/ความรู้สึก..ผุดขึ้น มันจะละวางอารมณ์เหล่านั้นอย่างรวดเร็ว!! ทำให้อารมณ์ดับไปอย่างรวดเร็ว!!...มันทำงานไวมากครับ มันเป็นกลไกการทำงานของสติ มันจะทำงานนี้เองโดยอัตโนมัติครับเปรียบเทียบเหมือนคุณเอามือไปจับหรือไปแตะโดนสิ่งที่มีความร้อนมากๆ เช่น ก้อนถ่านไฟลุกโชนเมื่อสัมผัสถึงความร้อน!! มือเราจะไม่จับ ไม่ถือ ไม่แช่จมอยู่กับความร้อนนั้น มือจะเด้งออกมาทันทีอย่างรวดเร็ว เหมือนเป็นอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้ความคิดใดๆ ทั้งสิ้นไม่ต้องไปคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองว่า ก้อนถ่านไฟนั้น มีความร้อนสูงแค่ไหน?แล้วมันจะทำร้ายร่างกายเราแค่ไหน? เราควรจะจับต่อไปหรือควรทิ้งทันที? ....ฯลฯโดยไม่ต้องคิดวิเคราะห์ใดๆ ทั้งสิ้น แค่รู้สึกหรือสัมผัสได้ถึงความร้อนจัดมือจะเด้งออกอย่างไวทันที!!มือจะไม่ไปจับแช่นานๆ อยู่กับสิ่งที่มีความร้อนจัดเหล่านั้น ...จะละวางทันที!! เป็นเหมือนกลไกอัตโนมัติ แต่การละวางความคิด/อารมณ์/ความรู้สึกต่างๆ แบบที่ดับไปอย่างรวดเร็ว หรือดับไปอย่างอัตโนมัติอะไรแบบนั้น"ต้องฝึกอย่างถูกต้องและมีความเพียรที่ต่อเนื่องเหมาะสม" สภาวะแบบนี้ถึงจะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นผู้ฝึกใหม่ หรือยังฝึกไม่ถูกต้อง หรือไม่ฝึกต่อเนื่องมากพอ สติยังไม่ได้พัฒนามากพอ ก็ไม่สามารถไปถึงสภาวะนี้ครับ หรือในแง่ของการฝึกฝนอะไรบ่อยๆ จนชำนาญ แล้วมันจะเป็นไปเองเหมือนเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติถ้าจะเปรียบเสมือนการหัดขี่จักรยานก็ได้ครับ ตอนหัดใหม่ๆ ตัวก็เอียงไปเอียงมา ล้มลุกคลุกคลาน ทำยังไงก็ไม่เข้าใจว่า จะไปทรงตัวบนจักรยานได้ยังไง? ยิ่งคิดสงสัย..ก็ยิ่งไม่เข้าใจ คิดให้ตายยังไง ก็ไม่มีทางขี่จักรยานเป็น!! เพราะฉะนั้น เราก็ต้องพักการใช้ความคิด ละวางความสงสัยไว้ก่อน แล้วลงมือฝึกฝนครับ พอหัดขี่จักรยานไปเรื่อยๆ แล้ววันนึง ทำไมอยู่ดีๆ ก็เกิด "ทรงตัว" ขึ้นมาได้เองแบบอัตโนมัติพอฝึกบ่อยๆ มันก็เกิดทำได้ขึ้นมาเอง!! จริงๆแล้ว มันเป็นกลไกของร่างกายและสมอง ที่จะจดจำ เรียนรู้ ปรับตัว จนมันสามารถปรับหาความสมดุลได้ แล้วก็ไป "ทรงตัว" อยู่บนจักรยานได้ ขี่จักรยานเป็น เกิดความชำนาญ ทำสิ่งที่ไม่เคยทำได้อย่างอัตโนมัติ เช่นเดียวกับกลไกตามธรรมชาติของร่างกายและจิตใจ เมื่อฝึกสติปัฏฐานจนพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆ หลายอย่างมันก็จะเกิดขึ้นเอง มันจะเป็นไปเองตามธรรมชาติ ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ทำความเข้าใจ แล้วหาโอกาสลงมือฝึกฝนไปเรื่อยๆ นะครับ จะเข้าใจได้มากขึ้นครับ หรือลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก [โพสต์ที่ 87] youtube.com/post/UgkxmjOxw49yKGWZM-bccpkFxoQnwesZY… เพราะฉะนั้น หากสงสัยประเด็นนี้ ก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักการหรือวิธีการฝึกสติปัฏฐานเพิ่มเติมดูได้ครับ สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน 1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้ www.facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946… เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน 2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] www.youtube.com/playlist?list... ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้ เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้ ไม่เกินคลิปหมายเลข 7.8 หรือใกล้เคียงกันนั้น ก็จะเป็นการปูพื้นฐานจนเกือบครบถ้วนแล้ว ส่วนคลิปหลังจากนั้น ก็เป็นการขยายความบ้าง เป็นส่วนเสริมบ้าง หรือเป็นการตอกย้ำบ้าง เพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่า "มือใหม่" จะต้องดูคลิปใน [ส่วนที่ 1] จนหมดให้ครบถึงคลิปสุดท้าย แล้วจึงค่อยลงมือเริ่มฝึกฝน ไม่ใช่แบบนั้น!! คือ ดูไปเรื่อยๆ สัก 2-3 คลิป จนเริ่มรู้หลักการคร่าวๆ รู้วิธีฝึกคร่าวๆ แล้วก็เริ่มเอาวิธีการไปลงมือฝึกได้เลย แล้วพอว่างๆ ก็ค่อยๆ มาดูคลิปเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ เมื่อพอจะเริ่มเข้าใจวิธีฝึก ก็ให้ลงมือฝึกฝนบ่อยๆ หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้ 3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้ ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2] www.youtube.com/playlist?list... จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง --------------------------------- ถ้าฝึกสติจนก้าวหน้ามากๆ เราจะไม่ใช่เป็นผู้ไร้อารมณ์แต่จะเป็นประมาณว่า เมื่อมีอารมณ์เกิดขึ้น แต่เราไม่หลงเข้าไปพัวพัน ไม่หลงเข้าไปจม ไม่หลงเข้าไปอินกับอารมณ์ต่างๆ วางความคิดฟุ้งซ่านและอารมณ์ลงได้ง่ายขึ้น ไวขึ้น หรือหลุดออกจากความคิดฟุ้งซ่านและอารมณ์ได้ง่ายขึ้น ไวขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนรัก พ่อแม่ญาติพี่น้องเสียชีวิต เราก็รู้สึกเสียใจเป็นปกติของมนุษย์ แต่เราจะไม่อิน ไม่จมไปในอารมณ์เศร้าโศก ฟูมฟาย แบบขาดสติ เราจะทำใจยอมรับสัจธรรมได้ มีสติที่จะประคองใจให้ใช้ชีวิตต่อไป ไม่อาลัยอาวรณ์คิดแต่เรื่องอดีตที่ทำให้เศร้าใจหนักขึ้นไปอีก เป็นต้น ไม่ใช่กลายเป็นคนไร้อารมณ์ ไม่มีความคิด ไม่รู้ร้อน ไม่รู้หนาว ไม่มีน้ำใจให้ใคร ไม่อยากทำอะไร อยากจะอยู่นิ่งๆ เป็นเหมือนก้อนหินที่ไม่รู้สึกอะไรเลย....ไม่ใช่แบบนั้นครับ!! แต่เราจะมีสติปัญญา พิจารณาที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์ ไม่ใช้อารมณ์นำหน้า ไม่ไหลไปตามอารมณ์ต่างๆ จนพาให้ไปทำอะไรแบบขาดสติ หรือทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เป็นต้น ขออธิบายคร่าวๆ แค่นี้ละกันนะครับ ----------------------------- เรื่องพวกนี้ เป็นหลักการพื้นฐานของการฝึกเจริญสติหรือสติปัฏฐานครับ ขอส่งกำลังใจให้ว่า หากลองศึกษาและลองฝึกฝนดู ก็ไม่ยากเกินไปที่จะเข้าใจได้ ไม่ยากเกินไปที่จะนำไปฝึกในชีวิตประจำวันครับ ลองศึกษาข้อมูลที่ให้ link ไว้ด้านบนนะครับ ขอส่งกำลังใจให้ครับ. ----------------------- หากต้องการเซฟหรือแชร์โพสต์นี้ ดูวิธีการได้จาก https://youtu.be/-RG3mmvP4uA นี่คือ link ของโพสต์นี้ youtube.com/post/UgkxZLbii0Od1xWrTx059TwoD-Zuqt_FH… ผู้ที่สนใจ สามารถเข้าไปดูโพสต์ต่างๆ ของช่องยูทูบ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" ซึ่งจะอยู่ในส่วนที่ชื่อว่า "Posts (โพสต์)" โดยคลิกที่นี่ youtube.com/@satipunya/posts
1 month ago (edited) | [YT] | 18
มือใหม่หลวงพ่อเทียน
[โพสต์ที่ 196]
ข้อความจากญาติธรรม :
ผมสงสัยครับ ทำไมพอเอาสติไปจับอารมณ์แล้ว
อารมณ์มันจึงหายไปเองอัตโนมัติครับ
กระบวนการนี้เรียกว่าอะไรครับ?
แล้วถ้าเราเอาสติไปจับอารมณ์ได้ทุกครั้ง
แสดงว่าต่อไปอารมณ์ก็หายไปทุกครั้งเลย
เราก็จะเป็นผู้ไร้อารมณ์ใช่ไหมครับ?
ผมถามในฐานะมนุษย์ที่ยังโง่เขลาคนหนึ่ง
ช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยนะครับ กราบสาธุ 🙏🏼
--------------------
ข้อความตอบกลับจาก "มือใหม่หลวงพ่อเทียน" :
คำถามนี้ ถ้าจะเข้าถึงคำตอบได้อย่างแท้จริง
ต้องทำด้วยการลงมือฝึกฝนตามหลักสติปัฏฐาน
พอฝึกฝนจนพัฒนาอย่างถูกต้องไปเรื่อยๆ
ก็จะไปสัมผัสสภาวะนี้ได้ด้วยตนเองครับ
แต่จะขอให้ข้อมูลไว้คร่าวๆ เท่าที่ได้รับรู้มาจากครูอาจารย์ต่างๆ นะครับ^^
ต้องขอถามว่า ได้ฝึกฝนภาวนาตามหลักสติปัฏฐานอยู่ใช่มั้ยครับ?
เพราะข้อสงสัยที่ถามไว้ ถือเป็นหลักการพื้นฐานของสติปัฏฐานครับ
หากไม่ได้ฝึกสติปัฏฐาน หรือฝึกอยู่ แต่ยังไม่เข้าใจหลักการ
ยังไม่เข้าใจวิธีฝึกที่ถูกต้อง ก็อาจทำให้ยังสับสนได้อยู่ครับ
ในแง่หลักการ ถ้าเขียนแบบสั้นๆ คือ
ถ้าฝึกสติปัฏฐานจนพัฒนาก้าวหน้ามากขึ้น
สติจะมีพลัง จะว่องไว
แล้วจะไป "รู้ทัน" อารมณ์/ความคิด/ความรู้สึกต่างๆ ที่มันผุดขึ้นในใจ
"รู้ทัน" ว่า ขณะนี้ ใจกำลังเผลอคิดฟุ้งซ่าน
หรือ ขณะนี้กำลังรู้สึก กำลังมีอารมณ์เกิดขึ้นในใจ
แล้วก็หาทางรับมือกับอาการต่างๆ ของใจได้อย่างเหมาะสม
เมื่อพัฒนาสติไปเรื่อยๆ ก็จะ "รู้ทัน" ได้ไวขึ้นเรื่อยๆ บ่อยขึ้นเรื่อยๆ
หรือเมื่อพัฒนาสติไปจนถึงขั้นก้าวหน้ามากพอสมควร
....พอ "รู้ทัน" ว่ามีความคิด/อารมณ์/ความรู้สึก..ผุดขึ้น
มันจะละวางอารมณ์เหล่านั้นอย่างรวดเร็ว!!
ทำให้อารมณ์ดับไปอย่างรวดเร็ว!!
...มันทำงานไวมากครับ มันเป็นกลไกการทำงานของสติ
มันจะทำงานนี้เองโดยอัตโนมัติครับ
เปรียบเทียบเหมือนคุณเอามือไปจับ
หรือไปแตะโดนสิ่งที่มีความร้อนมากๆ เช่น ก้อนถ่านไฟลุกโชน
เมื่อสัมผัสถึงความร้อน!! มือเราจะไม่จับ ไม่ถือ ไม่แช่จมอยู่กับความร้อนนั้น
มือจะเด้งออกมาทันทีอย่างรวดเร็ว เหมือนเป็นอัตโนมัติ
โดยไม่ต้องใช้ความคิดใดๆ ทั้งสิ้น
ไม่ต้องไปคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองว่า ก้อนถ่านไฟนั้น มีความร้อนสูงแค่ไหน?
แล้วมันจะทำร้ายร่างกายเราแค่ไหน? เราควรจะจับต่อไปหรือควรทิ้งทันที? ....ฯลฯ
โดยไม่ต้องคิดวิเคราะห์ใดๆ ทั้งสิ้น
แค่รู้สึกหรือสัมผัสได้ถึงความร้อนจัด
มือจะเด้งออกอย่างไวทันที!!
มือจะไม่ไปจับแช่นานๆ อยู่กับสิ่งที่มีความร้อนจัดเหล่านั้น
...จะละวางทันที!! เป็นเหมือนกลไกอัตโนมัติ
แต่การละวางความคิด/อารมณ์/ความรู้สึกต่างๆ
แบบที่ดับไปอย่างรวดเร็ว หรือดับไปอย่างอัตโนมัติอะไรแบบนั้น
"ต้องฝึกอย่างถูกต้องและมีความเพียรที่ต่อเนื่องเหมาะสม"
สภาวะแบบนี้ถึงจะเกิดขึ้นได้
แต่ถ้าเป็นผู้ฝึกใหม่ หรือยังฝึกไม่ถูกต้อง หรือไม่ฝึกต่อเนื่องมากพอ
สติยังไม่ได้พัฒนามากพอ ก็ไม่สามารถไปถึงสภาวะนี้ครับ
หรือในแง่ของการฝึกฝนอะไรบ่อยๆ จนชำนาญ
แล้วมันจะเป็นไปเองเหมือนเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ
ถ้าจะเปรียบเสมือนการหัดขี่จักรยานก็ได้ครับ
ตอนหัดใหม่ๆ ตัวก็เอียงไปเอียงมา ล้มลุกคลุกคลาน
ทำยังไงก็ไม่เข้าใจว่า จะไปทรงตัวบนจักรยานได้ยังไง?
ยิ่งคิดสงสัย..ก็ยิ่งไม่เข้าใจ
คิดให้ตายยังไง ก็ไม่มีทางขี่จักรยานเป็น!!
เพราะฉะนั้น เราก็ต้องพักการใช้ความคิด ละวางความสงสัยไว้ก่อน
แล้วลงมือฝึกฝนครับ พอหัดขี่จักรยานไปเรื่อยๆ
แล้ววันนึง ทำไมอยู่ดีๆ ก็เกิด "ทรงตัว" ขึ้นมาได้เองแบบอัตโนมัติ
พอฝึกบ่อยๆ มันก็เกิดทำได้ขึ้นมาเอง!!
จริงๆแล้ว มันเป็นกลไกของร่างกายและสมอง
ที่จะจดจำ เรียนรู้ ปรับตัว จนมันสามารถปรับหาความสมดุลได้
แล้วก็ไป "ทรงตัว" อยู่บนจักรยานได้ ขี่จักรยานเป็น
เกิดความชำนาญ ทำสิ่งที่ไม่เคยทำได้อย่างอัตโนมัติ
เช่นเดียวกับกลไกตามธรรมชาติของร่างกายและจิตใจ
เมื่อฝึกสติปัฏฐานจนพัฒนามากขึ้นไปเรื่อยๆ
หลายอย่างมันก็จะเกิดขึ้นเอง มันจะเป็นไปเองตามธรรมชาติ
ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ทำความเข้าใจ
แล้วหาโอกาสลงมือฝึกฝนไปเรื่อยๆ นะครับ จะเข้าใจได้มากขึ้นครับ
หรือลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจาก [โพสต์ที่ 87]
youtube.com/post/UgkxmjOxw49yKGWZM-bccpkFxoQnwesZY…
เพราะฉะนั้น หากสงสัยประเด็นนี้
ก็ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักการหรือวิธีการฝึกสติปัฏฐานเพิ่มเติมดูได้ครับ
สำหรับผู้ที่สนใจฝึกฝนเจริญสติ (สติปัฏฐาน) ตามแนวทางของหลวงพ่อเทียน
1. การเริ่มต้นฝึกฝนในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
หากสะดวกหรือสนใจที่จะได้เรียนรู้โดยตรงกับครูอาจารย์ต่างๆ
ก็ลอง search หาใน google ว่าสะดวกจะไปที่ไหน หรือลองดูจาก link นี้
www.facebook.com/Sanamnai/photos/a.365802240102946…
เป็นสถานที่ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้ในแนวทางของหลวงพ่อเทียน
2. หรือหากจะเริ่มต้นฝึกฝนโดยดูคลิปต่างๆ จาก channel "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
ก็ให้เข้าไปที่ [ส่วนที่ 1] www.youtube.com/playlist?list...
ซึ่งจะรวบรวมประเด็นต่างๆ ที่มือใหม่ควรจะรู้
เราพยายามจัดเรียงลำดับของคลิปไว้ตามหมายเลข
เพื่อลำดับความเข้าใจให้มือใหม่ไม่สับสน ไล่ดูไปเรื่อยๆ ตามลำดับที่เรียงไว้
ไม่เกินคลิปหมายเลข 7.8 หรือใกล้เคียงกันนั้น
ก็จะเป็นการปูพื้นฐานจนเกือบครบถ้วนแล้ว
ส่วนคลิปหลังจากนั้น ก็เป็นการขยายความบ้าง
เป็นส่วนเสริมบ้าง หรือเป็นการตอกย้ำบ้าง
เพราะฉะนั้น ไม่ได้หมายความว่า "มือใหม่"
จะต้องดูคลิปใน [ส่วนที่ 1] จนหมดให้ครบถึงคลิปสุดท้าย
แล้วจึงค่อยลงมือเริ่มฝึกฝน ไม่ใช่แบบนั้น!!
คือ ดูไปเรื่อยๆ สัก 2-3 คลิป จนเริ่มรู้หลักการคร่าวๆ
รู้วิธีฝึกคร่าวๆ แล้วก็เริ่มเอาวิธีการไปลงมือฝึกได้เลย
แล้วพอว่างๆ ก็ค่อยๆ มาดูคลิปเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ
เมื่อพอจะเริ่มเข้าใจวิธีฝึก ก็ให้ลงมือฝึกฝนบ่อยๆ
หากมีข้อสงสัยอะไร ก็ทิ้งคำถามไว้ที่ใต้คลิปนั้น
เราก็จะพยายามหาคำแนะนำของครูอาจารย์มาช่วยคลี่คลายให้
3. หรือหากมีเวลาพอสมควร พอที่จะดูคอร์สการบรรยายที่ยาวหน่อยได้
ก็อยากให้ดูการสอนกรรมฐานแบบเข้าใจง่ายใน [ส่วนที่ 2]
www.youtube.com/playlist?list...
จะช่วยปูพื้นฐานอย่างละเอียด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง
---------------------------------
ถ้าฝึกสติจนก้าวหน้ามากๆ เราจะไม่ใช่เป็นผู้ไร้อารมณ์
แต่จะเป็นประมาณว่า เมื่อมีอารมณ์เกิดขึ้น แต่เราไม่หลงเข้าไปพัวพัน
ไม่หลงเข้าไปจม ไม่หลงเข้าไปอินกับอารมณ์ต่างๆ
วางความคิดฟุ้งซ่านและอารมณ์ลงได้ง่ายขึ้น ไวขึ้น
หรือหลุดออกจากความคิดฟุ้งซ่านและอารมณ์ได้ง่ายขึ้น ไวขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนรัก พ่อแม่ญาติพี่น้องเสียชีวิต
เราก็รู้สึกเสียใจเป็นปกติของมนุษย์
แต่เราจะไม่อิน ไม่จมไปในอารมณ์เศร้าโศก ฟูมฟาย แบบขาดสติ
เราจะทำใจยอมรับสัจธรรมได้ มีสติที่จะประคองใจให้ใช้ชีวิตต่อไป
ไม่อาลัยอาวรณ์คิดแต่เรื่องอดีตที่ทำให้เศร้าใจหนักขึ้นไปอีก เป็นต้น
ไม่ใช่กลายเป็นคนไร้อารมณ์ ไม่มีความคิด
ไม่รู้ร้อน ไม่รู้หนาว ไม่มีน้ำใจให้ใคร
ไม่อยากทำอะไร อยากจะอยู่นิ่งๆ เป็นเหมือนก้อนหินที่ไม่รู้สึกอะไรเลย
....ไม่ใช่แบบนั้นครับ!!
แต่เราจะมีสติปัญญา พิจารณาที่จะทำสิ่งต่างๆ
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์
ไม่ใช้อารมณ์นำหน้า ไม่ไหลไปตามอารมณ์ต่างๆ
จนพาให้ไปทำอะไรแบบขาดสติ หรือทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ เป็นต้น
ขออธิบายคร่าวๆ แค่นี้ละกันนะครับ
-----------------------------
เรื่องพวกนี้ เป็นหลักการพื้นฐานของการฝึกเจริญสติหรือสติปัฏฐานครับ
ขอส่งกำลังใจให้ว่า หากลองศึกษาและลองฝึกฝนดู
ก็ไม่ยากเกินไปที่จะเข้าใจได้
ไม่ยากเกินไปที่จะนำไปฝึกในชีวิตประจำวันครับ
ลองศึกษาข้อมูลที่ให้ link ไว้ด้านบนนะครับ
ขอส่งกำลังใจให้ครับ.
-----------------------
หากต้องการเซฟหรือแชร์โพสต์นี้ ดูวิธีการได้จาก https://youtu.be/-RG3mmvP4uA
นี่คือ link ของโพสต์นี้ youtube.com/post/UgkxZLbii0Od1xWrTx059TwoD-Zuqt_FH…
ผู้ที่สนใจ สามารถเข้าไปดูโพสต์ต่างๆ ของช่องยูทูบ "มือใหม่หลวงพ่อเทียน"
ซึ่งจะอยู่ในส่วนที่ชื่อว่า "Posts (โพสต์)"
โดยคลิกที่นี่ youtube.com/@satipunya/posts
1 month ago (edited) | [YT] | 18