Mission To The Moon

"เลือกจากความชัดเจน ไม่ใช่ความเจ็บปวด" ทำไมการตัดสินใจตอน "เจ็บ" มักพาเราไปผิดทาง?
.
มีความจริงข้อหนึ่งที่หลายคนใช้เวลาหลายปีกว่าจะยอมรับได้ นั่นคือ ชีวิตมักจะเจ็บปวดเสมอไม่ว่าจะเลือกทางไหน
[ ] ขี้เกียจออกกำลังกาย ก็เจ็บเพราะสุขภาพพัง แต่ถ้าลากตัวไปยิม ก็เจ็บเพราะต้องฝืนใจ
[ ] อยู่คนเดียว ก็เจ็บเพราะเหงา มีความสัมพันธ์ ก็เจ็บเพราะต้องเปิดใจและทำงานทางอารมณ์
[ ] นอนดูซีรีส์ทั้งวัน ก็เจ็บเพราะรู้สึกว่างเปล่า แต่พอลุกขึ้นมาทำงาน ก็เจ็บเพราะเหนื่อย
.
ดังนั้น เราจึงสามารถเห็นธรรมชาติของอารมณ์ได้ว่าไม่มีทางเลือกไหนที่ไม่เจ็บ มีแค่ให้เลือกว่าจะเจ็บแบบไหน แต่ปัญหาคือ คนส่วนใหญ่มักตัดสินใจตอนที่กำลังเจ็บอยู่ และนั่นคือจุดที่ทำให้เราเลือกผิดทางซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
.
เมื่อสมองถูก "ยึดครอง" โดยอารมณ์
.
Daniel Goleman นักจิตวิทยาผู้เขียนหนังสือ Emotional Intelligence (1995) เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "Amygdala Hijack" หรือการที่สมองส่วนอารมณ์ "ยึดครอง" สมองส่วนคิดวิเคราะห์
.
Amygdala คือชื่อส่วนของสมองที่ทำหน้าที่ประมวลผลอารมณ์และตอบสนองต่อภัยคุกคาม เมื่อเรารู้สึกเจ็บ เหงา กลัว หรือถูกคุกคาม Amygdala จะทำงานเร็วกว่าสมองส่วน Prefrontal Cortex ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการคิดอย่างมีเหตุผลและการตัดสินใจ
.
ผลลัพธ์คือ เราตอบสนองโดยไม่ได้คิด เพราะสมองส่วนอารมณ์ "ยึดครอง" สมองส่วนคิดไปก่อนที่เราจะทันได้ใช้เหตุผล นี่คือเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงตัดสินใจบางอย่างแล้วมานึกหรือเสียใจทีหลังว่า "เพราะอะไร ถึงตัดสินใจไปแบบนั้นนะ / ตอนนั้นเราคิดอะไรอยู่?"
.
.
Pain หรือความเจ็บปวดทำให้เราเห็นโลกบิดเบี้ยว
.
งานวิจัยของ Mara Mather จาก University of Southern California ที่ตีพิมพ์ใน Current Directions in Psychological Science (2012) พบว่าเมื่อคนเราอยู่ภายใต้ความเครียด สมองจะโฟกัสไปที่ข้อดีของตัวเลือกมากขึ้น และมองข้ามข้อเสียไปอย่างน่าตกใจ
.
พูดง่ายๆ คือ ตอนที่เราเครียดหรือเจ็บ เราจะมองคนหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าดีกว่าความเป็นจริงเสมอ เพราะสมองอยากหาทางออกจากความเจ็บปวดโดยเร็วที่สุด
.
ซึ่งงานวิจัยนี้สามารถอธิบายได้ว่าทำไมคนที่เหงามากๆ ถึงมักเลือกคนที่ "อยู่ใกล้ที่สุดตอนนั้น" แทนที่จะเลือกคนที่ "ใช่จริงๆ" หรือทำไมคนที่เครียดกับงานถึงรีบกระโดดไปงานใหม่ ทั้งที่ยังไม่ได้คิดให้รอบคอบว่างานนั้นเป็นงานที่ใช่แล้วหรือยัง
.
ความเจ็บปวดทำให้เรามองเห็นตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง มองคนอื่นดีกว่าความเป็นจริง รีบคว้าอะไรก็ได้เพื่อปิดรูโหว่ในใจ และเลือกสิ่งที่ทำให้ปัจจุบันหายเจ็บ แทนที่จะเลือกสิ่งที่ทำให้อนาคตดีขึ้น
.
ปรากฏการณ์นี้แทบไม่ต่างจากการไปซื้อของตอนหิวจัด สุดท้ายก็หอบขนมกลับมาเต็มถุง ทั้งที่ตั้งใจจะซื้อแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น สุดท้ายก็ทำให้หลายๆ คนต้องมานึกเสียดายกับการตัดสินใจในภายหลัง
.
.
Pain vs. Choice ต่างกันยังไง?
.
ลองนึกภาพคนที่เพิ่งเลิกกับแฟนแล้วรู้สึกเหงามากๆ กับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ดีๆ แล้วเจอคนที่น่าสนใจ ทั้งสองคนอาจตัดสินใจเริ่มความสัมพันธ์ใหม่เหมือนกัน แต่ "แรงจูงใจ" ที่อยู่เบื้องหลังต่างกันโดยสิ้นเชิง
.
คนแรกเลือกเพราะอยากหนีจากความเจ็บปวด คนที่สองเลือกเพราะเห็นว่าคนนี้เข้ากับชีวิตที่ตัวเองอยากมี นี่คือความแตกต่างระหว่าง Pain กับ Choice
.
การตัดสินใจจาก Pain หรือความเจ็บปวด เป็นการตัดสินใจที่เกิดจากความกลัว ความเหงา หรือความต้องการหนีจากความรู้สึกแย่ๆ ตรงหน้า เป้าหมายหลักคือ "ทำให้หายเจ็บตอนนี้" ไม่ใช่ "ทำให้ชีวิตดีขึ้นในระยะยาว" ผลลัพธ์จึงมักเป็นการ "คว้า" อะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้มือ โดยไม่ได้ประเมินว่าสิ่งนั้นเหมาะกับเราจริงหรือไม่
.
ส่วนการตัดสินใจจาก Choice หรือตัวเลือก เป็นการตัดสินใจที่เกิดจากความชัดเจน ความสงบ และความตั้งใจจริง เป้าหมายคือ "สิ่งที่สอดคล้องกับชีวิตที่เราอยากมี" ไม่ใช่แค่สิ่งที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นชั่วคราว ผลลัพธ์คือการ "เลือก" อย่างมีสติ โดยประเมินทั้งข้อดีและข้อเสีย ทั้งปัจจุบันและอนาคต
.
คำถามสำคัญที่ช่วยแยกแยะคือ "ถ้าตอนนี้ไม่ได้เจ็บ ไม่ได้กลัว ไม่ได้เหงา ฉันจะยังเลือกเหมือนเดิมไหม?"
ถ้าคำตอบคือ "ใช่" นั่นคือ Choice
ถ้าคำตอบคือ "ไม่แน่ใจ" นั่นคือสัญญาณว่า Pain กำลังตัดสินใจแทนเรา
.
.
รอให้อารมณ์ผ่านไป แล้วค่อยตัดสินใจด้วย ‘กฎ 90 วินาที’
.
ถ้าเราตัดสินใจตอนที่อารมณ์กำลังพุ่งสูง ผลลัพธ์มักจะไม่ดี แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนไหนควรรอ ตอนไหนพร้อมเลือก?
.
Dr. Jill Bolte Taylor นักประสาทวิทยาจาก Harvard และผู้เขียนหนังสือ My Stroke of Insight เสนอแนวคิดที่เรียกว่า "กฎ 90 วินาที" ที่ช่วยให้เราแยกแยะระหว่างอารมณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับอารมณ์ที่เราเลือกจะอยู่กับมันต่อได้ดีขึ้น
.
เธออธิบายว่าเมื่อเราถูกกระตุ้นทางอารมณ์ สมองจะหลั่งสารเคมีที่ทำให้เราอยู่ในโหมด "สู้หรือหนี" (Fight or Flight) แต่นี่คือจุดสำคัญ สารเคมีเหล่านี้จะถูกขับออกจากร่างกายภายในเวลาประมาณ 90 วินาทีเท่านั้น
.
นั่นหมายความว่า "คลื่นอารมณ์" ที่ถาโถมเข้ามานั้น จริงๆ แล้วมีอายุสั้นมาก ถ้าเราปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่ตอบสนอง มันจะค่อยๆ จางหายไปเอง
.
.
แล้วทำไมอารมณ์ถึงอยู่นานกว่านั้น?
.
Dr. Taylor ชี้ว่าหากหลังจาก 90 วินาทีผ่านไปแล้ว เรายังคงรู้สึกโกรธ กลัว หรือเจ็บปวดอยู่ นั่นไม่ใช่เพราะสารเคมีในร่างกายอีกต่อไป แต่เป็นเพราะเรา "เลือก" ที่จะอยู่ในวงจรอารมณ์นั้นต่อ
.
เราเลือกโดยการคิดถึงเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เล่าเรื่องเดิมในหัวไม่หยุด ซึ่งทุกครั้งที่คิด สมองก็จะหลั่งสารเคมีชุดใหม่ออกมาอีก วนเป็นลูปไม่รู้จบ พูดง่ายๆ คือ 90 วินาทีแรกเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติของร่างกาย แต่หลังจากนั้นเป็น "ทางเลือก" ของเรา
.
เมื่อรู้สึกถูกกระตุ้นทางอารมณ์อย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเจ็บ หรือความกลัว ให้ลองทำตามขั้นตอนนี้
.
[ ] ขั้นแรก หยุดก่อน อย่าตอบสนองทันที ถ้าเป็นไปได้ ให้มองนาฬิกาหรือจับเวลา 90 วินาที
.
[ ] ขั้นที่สอง หายใจลึกๆ โฟกัสที่ลมหายใจ สังเกตว่าร่างกายรู้สึกอย่างไร หัวใจเต้นเร็วขึ้นไหม ไหล่เกร็งไหม มือสั่นไหม
.
[ ] ขั้นที่สาม ปล่อยให้คลื่นผ่านไป อย่าพยายามกดอารมณ์ แต่ก็อย่าเติมเชื้อไฟด้วยการคิดวนซ้ำ แค่สังเกตมันเหมือนดูคลื่นในทะเลที่ซัดเข้ามาแล้วก็ถอยออกไป
.
[ ] ขั้นสุดท้าย เมื่อ 90 วินาทีผ่านไป ค่อยถามตัวเองว่า "ตอนนี้ฉันพร้อมตัดสินใจด้วยความชัดเจนหรือยัง?" ถ้ายังไม่พร้อม ก็รอต่อได้ ไม่มีใครบังคับให้ต้องรีบ
.
เพราะการตัดสินใจที่ดีที่สุดมักไม่ได้เกิดขึ้นในช่วง 90 วินาทีแรกที่อารมณ์พุ่งสูง การที่เราให้เวลาตัวเองแค่ 90 วินาที อาจเป็นความแตกต่างระหว่างการพูดอะไรบางอย่างที่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง กับการตอบสนองอย่างมีสติที่เราภูมิใจได้
.
ดังนั้น 90 วินาทีนี้ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่นาน แต่มันอาจเปลี่ยนทิศทางของการตัดสินใจครั้งสำคัญได้ทั้งหมด
.
[ ] ลองใช้หลักนี้กับความรัก ก่อนจะให้ใจใคร ลองถามตัวเองตรงๆ ว่า
"ฉันชอบเขา หรือฉันแค่ไม่อยากอยู่คนเดียว?"
"ฉันอยากให้เขาเข้ามา หรืออยากให้ความเหงาหายไป?"
"ฉันเลือกเขาเพราะเขาดีจริง หรือเพราะเขาอยู่ใกล้ที่สุดตอนนี้?"
ถ้าคำตอบคือข้อหลัง นั่นคือสัญญาณว่าเรากำลังเลือกจาก Pain ไม่ใช่ Choice
.
[ ] ลองใช้กับงานและโอกาส
งานที่ดีคืองานที่ "ใช่" ในระยะยาว ไม่ใช่งานที่แค่ช่วยให้เราหนีจากเจ้านายเดิม หนีความเบื่อ หรือหนีปัญหาที่ยังไม่ได้แก้
Choice จะถามว่า "งานนี้พาเราไปชีวิตที่อยากมีไหม?"
Pain จะถามแค่ว่า "งานนี้ทำให้หายเครียดตอนนี้ไหม?"
.
.
เพราะความจริงที่หลายๆ คนยังนึกไม่ถึงก็คือ เป็นเรื่องปกติที่ชีวิตจะต้องพบกับความเจ็บปวด ไม่ว่าจะเลือกทางไหน แต่ถ้าต้องเจ็บก็ควรเลือกความเจ็บที่คุ้มค่า และที่สำคัญกว่านั้น คืออย่าเลือกตอนที่ใจกำลังเจ็บ
.
การตัดสินใจที่ดี ต้องเกิดตอนที่ใจเรานิ่งพอจะเห็นความจริง
และเลือกจากความตัวเลือกที่ชัดเจน ไม่ใช่เลือกเพราะหลีกหนีจากความเจ็บปวด
.
.
อ้างอิง
- Amygdala Hijack: When Emotion Takes Over: Kimberly Holland, Healthline - bit.ly/4pMie7C
- Choose Your Pain: Life Hurts Anyway, So Pick the One That Builds You: Aishwarya, Medium - bit.ly/48JivlQ
.
.
#Life
#MentalHealth
#EmotionalIntelligence
#MissionToTheMoon
#MissionToTheMoonPodcast

1 week ago | [YT] | 221