Invidious

บทเรียนจากการเจ็บป่วย
.
ผมเริ่มบันทึกบทความนี้ในมือถือ วันที่ 14 ก.ค. 68

.
ขณะที่กำลังกึ่งนอนกึ่งนั่ง บนเตียงในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ระหว่างกำลังรอ “แฟกเคลม” (Fax Claim) จากบริษัทประกันชีวิตที่ได้ทำไว้
.
ผมพบก้อนนิ่วในไตข้างซ้ายขนาด 8 มิลลิเมตร และไตมีอาการบวมน้ำเล็กน้อย ก็เลยตัดสินใจเข้ารับการรักษาทันที

ก่อนที่มันจะพัฒนาไปเป็นอย่างอื่น
.
เลยอยากบันทึก “การเดินทาง” ครั้งนี้เอาไว้ เผื่อว่า มันจะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆ ท่าน ในเรื่องการดูแลสุขภาพบ้าง
.
===========
.
จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือ ทุกๆ ปี ผมกับคุณภรรยา เราจะซื้อตรวจคอร์สสุขภาพเบื้องต้น (เจาะเลือด เก็บตัวอย่างปัสสาวะ และอุจจาระ) จากห้องแลปเอกชน ที่มีอุปกรณ์ครบครัน เพราะมันรวดเร็วกว่า

ซึ่งถ้าพบอะไรผิดปกติ ก็จะเอาไปให้คุณหมอที่คลีนิค ช่วยดูให้ต่อไป

.
เราทำกันมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว โดยต้นปีก่อน (ปี 67) ผมตรวจพบเม็ดเลือดในปัสสาวะ 1+ ซึ่ง

พอให้คุณหมอช่วยดูให้ ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เลยปล่อยผ่านไป (ทั้งๆ ที่ควรจะตรวจเพิ่มเติม ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว)
.
============
.
จนเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 68 นี้เอง ได้ตรวจเจอเม็ดเลือด 5+ ทั้งที่ร่างกาย

และสุขภาพโดยรวม ก็เป็นปกติดี กินได้ นอนหลับ ยังออกไปเล่นบาส ออกกำลังกายได้ตามปกติ
.
==================
.
คราวนี้ พอคุณหมอเห็นผล ก็แนะนำให้ไปตรวจให้ละเอียดอีกที เพราะสงสัยว่า จะมีนิ่วอยู่ที่ไหนซักแห่ง

.
ผมเลยตัดสินใจ ไปทำอัลตร้าซาวด์ ซึ่งก็พบว่า มีนิ่วอยู่ที่ไตจริงๆ ด้วย

คุณหมอสั่งทำ CT Scan เพิ่มเติม เพื่อจะได้เห็นรายละเอียดมากขึ้น

.
หลังจากนั้น ก็ทำการรักษาโดยการใส่ “สายระบายปัสสาวะ” ที่ท่อไต โดย “สวน” เข้าไปทางอวัยวะ ที่ใช้ฉี่ออกมานั่นล่ะครับ

.
จากนั้นจึงทานยา เพื่อสลายนิ่วให้ค่อยๆ ระบายออกมาทางสายนี้เรื่อยๆ
.
=================
.
ต้องบอกว่า ระหว่างทำ รู้สึกเข้าอกเข้าใจเพศแม่ ตอนคลอดลูกได้เพิ่มขึ้นเลยล่ะครับ หลังจากทำหัตถการเสร็จ ใช้เวลา 15-20 นาที (ไม่มีแผลเปิดใดๆ)

.
ถ้าไม่มีอาการปวดมาก คุณหมอบอก ก็สามารถกลับบ้านตอนเย็นได้เลย

แต่ผมปวดมากๆ ก็เลยนอนแอดมิทที่โรงพยาบาล 1 คืน

.
คุณพยาบาลฉีดยาแก้ปวดให้ ตอนบ่าย 3 แต่ก็ยังปวดหน่วงๆ และปวดหลังมากๆ จนคุณพยาบาลต้องนำยามาให้ทานเพิ่ม

แต่ก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่

.
============
.
ในตอนที่ปวดมากที่สุด คุณภรรยาถามว่า จากความปวดระดับ 1 ถึง 10 ผมอยู่ระดับไหน ผมตอบว่า 10

เธอก็เลยมาจับมือ และเปิดบทสวดมนต์ มหาจักรพรรดิให้ และเธอเองก็สวดไปพร้อมๆ กันด้วยทั้งหมด 9 จบ

.
ระหว่างที่เธอทำแบบนั้น อาการก็ค่อยๆ ดีขึ้น จนผมถึงขนาดเผลอหลับไปเลย

จากนั้น ผมก็ให้เธอเปิดคลิปหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ให้ฟังต่อน่าจะซัก 1 ชั่วโมง

จากที่ปวดมากๆ ตอนหัวค่ำ พอประมาณ 3 ทุ่ม ก็ดีขึ้นมาก

หายปวดไปซะอย่างงั้น
.
และวันต่อมา ผมก็สามารถออกจากโรงพยาบาล เพื่อมาพักฟื้นต่อที่บ้านได้ครับ
.
==================

.
บทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้

.
1. “3 ลิตร” คือปริมาณน้ำที่คุณหมอทางเดินปัสสาวะ แนะนำให้ดื่ม และ ห้ามอั้นฉี่เด็ดขาด เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เป็นนิ่ว คือดื่มน้ำน้อยเกินไป ซึ่งผมก็ดื่มน้อยจริงๆ

.
2.ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ปัสสาวะ อุจจาระทุกปี เผื่อเจออะไรจะได้รักษาแต่เนิ่นๆ

.
3. ดื่มกาแฟ ชาได้ ไม่ได้ทำให้เกิดนิ่ว แม้ว่า น้ำสะอาดจะดีที่สุด คุณจะติดเครื่องกรองน้ำก็ได้ แต่ถ้าไม่มี น้ำดื่มทั่วไปก็พอแล้ว

.
4.เจอเม็ดเลือดในปัสสาวะแม้เพียง 1+ ก็ควรปรึกษาแพทย์ทางเดินปัสสาวะทันที

.
5.ทำประกันชีวิตไว้ด้วย เพราะจะมีประโยชน์มากๆ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย มันช่วยลดรายจ่ายได้อย่างแท้จริง

.
6.เมื่อถึงเวลาเจ็บป่วย คนที่รักเราสามารถช่วยเหลือได้มากๆ

.
7.การฝึกสมถกรรมฐาน และ วิปัสสนากรรมฐาน สามารถช่วยได้จริงๆ เวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน

.
8.การฟังธรรมะ กับบทสวดมนต์ ช่วยได้อย่างแท้จริง มันจะทำให้เราเข้าใจทุกข์ และเข้าใจความเป็นไป ของโลกได้มากยิ่งขึ้น

.
ผมเริ่มต้นบทความนี้ในโรงพยาบาล และมาพิมพ์จบบทความนี้ ที่บ้านของตัวเอง
.
ขอให้รักษาสุขภาพร่างกายให้ แข็งแรงทั้งกาย และใจ ทุกๆ ท่านนะครับ

.
ซิม
15 ก.ค. 68

ปล.ผมอัดคลิปล่วงหน้าไว้อีก 4 วันข้างหน้าแล้วครับ

1 month ago | [YT] | 554

@BoonlekNakaa-rg8pu

สาธุคะ

1 month ago | 0