วันดีดี

ประวัติหลวงพ่อต่างๆ เกจิอาจารย์ดัง เรื่องราวปาฏิหาริย์ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและ
เรื่องราวพุทธประวัติ บุคคลสำคัญ



วันดีดี

วัดโพธิ์ทองล่าง จุดเริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ของ “หลวงปู่ศุข เกสโร”

ก่อนที่ “หลวงปู่ศุข เกสโร” จะกลายเป็นพระเกจิผู้เรืองเวทชื่อก้องทั่วแผ่นดิน และเป็นบรมครูของ “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ท่านได้เริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ ณ วัดโพธิ์ทองล่าง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งในอดีตเรียกว่า “วัดโพธิ์ทองหลาง” และเป็นวัดหนึ่งในสองวัดที่ตั้งอยู่บริเวณซอยกรุงเทพ-นนท์ 2 อีกวัดคือวัดทางหลวง
แม้ท่านจะเป็นชาวชัยนาทโดยกำเนิด แต่ในวัยเยาว์ท่านได้มาอยู่กับญาติซึ่งอาศัยอยู่ในย่านคลองบางเขน จังหวัดนนทบุรี ญาติผู้นี้ไม่มีบุตร จึงรับหลวงปู่มาอุปการะ และเมื่ออายุครบบวช ท่านจึงได้อุปสมบทที่วัดโพธิ์ทองหลาง
หลังอุปสมบท “หลวงปู่ศุข” ได้อยู่ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐานอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนา นอกจากนี้ ท่านยังได้เรียนเวทมนตร์คาถาจนมีความรู้แตกฉาน
ต่อมา ท่านได้กราบลาพระอุปัชฌาย์เพื่อไปศึกษาพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม โดยจำพรรษาอยู่ที่ วัดสามง่าม ย่านปทุมวัน และต่อเนื่องไปยัง วัดชนะสงคราม เขตบางลำพู ซึ่งที่นั่นเอง ท่านได้พบกับ “หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน” จังหวัดพิจิตร ทั้งสองได้ศึกษาวิชาธรรมะและเวทวิทยาคมร่วมกัน จนมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและนับถือกันอย่างลึกซึ้ง
#หลวงปู่ศุข #วัดปากคลองมะขามเฒ่า #วัดโพธิ์ทองล่าง #วัดทางหลวง #พระเกจิ #พระเครื่อง #ตำนาน #เกจิ #history

2 months ago | [YT] | 307

วันดีดี

หลวงพ่อพรหม ปาฏิหาริย์ผ้าขาวม้า กระสุนฝังแต่ไม่เข้า
หากเอ่ยนาม “หลวงพ่อพรหม ถาวโร”
แห่งวัดช่องแค จังหวัดนครสวรรค์
ย่อมไม่มีผู้ใดไม่รู้จัก
ท่านเป็นพระเถราจารย์ที่ครองสมณเพศ...-
ด้วยความมั่นคงในศีล สมาธิ ปัญญา
ท่านมักใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สงบ และเปี่ยมเมตตา
บารมีของท่านเป็นที่ประจักษ์แก่ญาติโยมทั้งใกล้และไกล
โดยเฉพาะในด้าน
“เมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี”
ที่ผู้คนต่างเล่าขานกันไม่รู้จบ
สิ่งหนึ่งที่เป็นที่กล่าวถึงมากที่สุด คือ เล็บมือและเล็บเท้าของท่าน
ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ
ถึงขั้นมีผู้ตั้งราคาสูงถึงหลักหมื่นบาท
เพราะเชื่อว่ามีฤทธิ์ในตัวแม้เพียงเศษเสี้ยว

แม้เมื่อหลวงพ่อพรหมจะละสังขารไปแล้ว
แต่ร่างของท่านกลับไม่เน่าเปื่อย
เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์
ที่บ่งบอกถึงพลังจิตอันบริสุทธิ์ของท่าน
ปัจจุบันร่างของหลวงพ่อพรหม...-
ยังคงถูกเก็บรักษาไว้ในโลงแก้ว ณ วัดช่องแค
เพื่อให้ศิษยานุศิษย์และผู้ศรัทธาได้กราบนมัสการ...-
ขอพร และระลึกถึงบารมีของท่านอย่างต่อเนื่อง

เรื่องเล่าที่ได้รับการกล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง...-
ในหมู่ศิษย์ของหลวงพ่อพรหม
คือเรื่องของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร
ก่อนออกเดินทาง เขาได้มากราบลาหลวงพ่อ
ซึ่งท่านก็ได้มอบ “ผ้าขาวม้าจารยันต์โสฬสมงคล”
ที่เขียนด้วยมือของหลวงพ่อเอง
พร้อมเมตตาอวยพรว่า “ให้แคล้วคลาดปลอดภัย”

ชายหนุ่มผู้นี้ภายหลังถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่...-
ในภารกิจปราบปรามผู้ก่อการร้าย
ซึ่งในยุคนั้นถือว่าเป็นงานที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง
ทุกครั้งก่อนออกลาดตระเวน
เขาจะผูกผ้าขาวม้านั้นไว้ที่เอวเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
และในวันหนึ่ง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
กองลาดตระเวนของเขาถูกโจมตีด้วยกระสุน M-16
จนร่างกายเขาล้มลงกับพื้น เสื้อผ้าพรุนเป็นรูนับสิบ
แต่เมื่อเพื่อนทหารเข้ามาดู กลับต้องตกตะลึง...
เพราะ แม้ร่างกายจะเต็มไปด้วยร่องรอยกระสุน
แต่กลับไม่มีบาดแผลที่ทะลุผิวหนังแม้แต่น้อย

สิ่งที่ดูเหมือนตายแน่...
กลับกลายเป็นเพียงอาการสลบจากแรงกระแทกเท่านั้น
ไม่มีกระสุนนัดใดสามารถเจาะทะลุสู่เนื้อได้แม้แต่นัดเดียว
ข่าวเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไปในหมู่ทหารและประชาชนอย่างรวดเร็ว
ทำให้ผู้คนจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลมาที่วัดช่องแค
ด้วยจิตศรัทธาอันแน่นแฟ้นในหลวงพ่อพรหม
บ้างมาขอพร บ้างมาขอวัตถุมงคล
บ้างมาเพียงเพื่อกราบศพอันสงบเย็นของพระอริยะเจ้าผู้ทรงอภิญญา
หลวงพ่อพรหมจึงไม่ใช่เพียงพระเกจิผู้ปลุกเสกเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์
แต่คือ “พระแท้” ที่ดำรงธรรมด้วยหัวใจจริง
ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นผลจากจิตที่บริสุทธิ์
ความตั้งมั่นในการเจริญภาวนา และเมตตาธรรมที่ไร้เงื่อนไข
แม้วันนี้ท่านจะจากไปแล้ว
แต่แสงแห่งบารมีของท่านยังคงส่องนำทางผู้คน
ให้ระลึกถึงความดีงาม ศรัทธา
และพลังแห่งการปฏิบัติที่แท้จริงในพระพุทธศาสนา

-----------------------------------------------
#หลวงพ่อพรหม #พระเกจิ #พระเครื่อง #ตำนาน #เกจิ #history

2 months ago | [YT] | 410

วันดีดี

หลวงปู่กาหลง แห่งวัดเขาแหลม จังหวัดสระแก้ว
หากต้องการรับฟัง >> https://youtu.be/_LlGk03R1Jk

เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญทางศาสนาที่เต็มไปด้วยแรงศรัทธา
และเรื่องเล่าขานที่พาเราย้อนลึกเข้าไปในตำนานเกี่ยวกับปาฏิหาริย์และธรรมะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย ชื่อของท่านคงไม่ใช่สิ่งที่แปลกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึง “เขี้ยวแก้ว” หรือฟันกลางเพดานปาก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในของกายสิทธิ์ที่หาได้ยากยิ่งในมนุษย์ ตามความเชื่อโบราณว่ากันว่า ผู้ที่มีฟันขึ้นกลางเพดานปากนั้นจะเต็มไปด้วยพลังลึกลับในตัวเอง และมีฤทธิ์อันแฝงอยู่

แม้กล่าวกันว่าเขี้ยวแก้วมีเพียงไม่กี่คนในโลก แต่หลวงปู่กาหลง เตชวัณโณ เป็นหนึ่งในบุคคลที่มีคุณสมบัติพิเศษนี้ บรรดาศิษย์และผู้เคารพศรัทธาต่างยกย่องท่านในฐานะพระอาจารย์ผู้เปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์และคุณงามความดี

ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น หลวงปู่กาหลงเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2461 ในพื้นที่คลอง 7 จังหวัดปทุมธานี ท่านเป็นบุตรคนโตในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 4 คน ด้วยความที่เติบโตมาในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับวัดและศาสนา ท่านจึงซึมซับความศรัทธาตั้งแต่วัยเยาว์ ทั้งการไหว้พระและเข้าวัดไปพร้อมพ่อแม่กลายเป็นกิจกรรมประจำที่ท่านชื่นชอบ นอกจากนี้ ท่านยังสนใจฝึกสมาธิและภาวนาเสมอ ทำให้พระพุทธศาสนากลายเป็นแก่นสำคัญในชีวิตมาจนถึงวัยหนุ่ม

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2481 หลวงปู่กาหลงได้เข้าสู่ชีวิตบรรพชิต โดยอุปสมบท ณ วัดนาบุญ คลอง 7 จังหวัดปทุมธานี นับแต่นั้นมา ท่านได้อุทิศตนให้กับการศึกษาพระธรรมและการปฏิบัติสมาธิเพื่อการพัฒนาจิตวิญญาณอย่างแท้จริง

เรื่องราวของหลวงปู่กาหลง กับคุณลักษณะอันโดดเด่นอย่างเขี้ยวแก้วนั้น ยังคงสร้างแรงศรัทธาให้แก่ผู้คนจำนวนมาก หากคุณเป็นอีกคนที่สนใจเรื่องราวอันน่าทึ่งเหล่านี้ อย่าลืมศึกษาและซาบซึ้งในแนวทางชีวิตของท่าน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการสะสมศรัทธา แต่ยังสะท้อนถึงความหมายอันลึกซึ้งของการอยู่ร่วมกับธรรมะในทุกช่วงขณะชีวิต


--------------------------------------------------

#หลวงปู่กาหลง #เขี้ยวแก้ว #พระเครื่อง #พระเกจิ #เกจิชื่อดัง #วัดเขาแหลม

3 months ago | [YT] | 425

วันดีดี

พระธรรมมุนี (แพ เขมงฺกโร) หรือที่รู้จักกันในนาม#หลวงพ่อแพ
รับฟังต่อได้ที่นี่ https://youtu.be/OL5ocToEgvE

ถือเป็นพระเถระผู้ทรงศีลและมีบทบาทสำคัญในวงการพระพุทธศาสนาไทย
ท่านถือกำเนิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2448 ณ บ้านสวนกล้วย ตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
ในครอบครัวของนายเทียนและนางหน่าย ใจมั่นคง อย่างไรก็ตาม ชีวิต
ในวัยเด็กของท่านต้องเผชิญความสูญเสีย เนื่องจากมารดาได้เสียชีวิตเมื่อท่านมีอายุเพียง 8 เดือน
ต่อมาท่านได้รับการดูแลเลี้ยงดูจากนายบุญและนางเพียร ขำวิบูลย์ในฐานะบุตรบุญธรรม

เมื่ออายุได้ 11 ปี หลวงพ่อแพเริ่มต้นเส้นทางการศึกษาในพระพุทธศาสนา
โดยศึกษาภาษาและอักษรขอมกับพระอาจารย์สมที่วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร จนอายุ 16 ปี
จึงกลับบ้านเกิดที่สิงห์บุรีและบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดพิกุลทอง
หลังจากนั้น ท่านได้เดินทางกลับมาศึกษาพระปริยัติธรรมต่อ ณ วัดชนะสงครามจนสอบไล่ได้เปรียญธรรม 4 ประโยค
อย่างไรก็ตาม สุขภาพตาของท่านเริ่มมีปัญหาเนื่องจากอ่านหนังสืออย่างหนัก
ทำให้ท่านหันมาศึกษากรรมฐานแทน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร


ต่อมาในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2469 หลวงพ่อแพได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ
โดยได้รับการสนองคุณจากพระมงคลทิพมุนี (มุ้ย ปณฑิโต) แห่งวัดจักรวรรดิราชาวาสเป็นพระอุปัชฌาย์
พร้อมกับพระครูสิทธิเดช และเจ้าอธิการอ่อนเป็นผู้ร่วมประกอบพิธี
ได้รับฉายาทางธรรมว่า "เขมงฺกโร" ก่อนจะกลับไปจำพรรษาและปฏิบัติศาสนกิจที่วัดชนะสงคราม


ในปี พ.ศ. 2474 หลวงพ่อแพได้รับนิมนต์จากชาวบ้านให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง
แทนเจ้าอาวาสรูปเดิมที่ลาสิกขา นับแต่นั้น ท่านได้ใช้องค์ความรู้และความศรัทธาพัฒนาวัด
รวมถึงสร้างพระเครื่องหลายรุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดัง นอกจากนี้
ท่านยังเป็นกำลังสำคัญในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์อีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงพยาบาล สถานีตำรวจ สถานีอนามัย โรงเรียน และสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา


หลวงพ่อแพละสังขารในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ด้วยวัย 94 ปี 40 วัน
ผลงานและคุณธรรมของท่านยังคงเป็นที่ระลึกและยึดเหนี่ยวจิตใจของศิษยานุศิษย์ตราบจนทุกวันนี้

---------------------------------------------------------------
#พระเกจิ #เกจิชื่อดัง #พระเครื่อง #พระ #วัดพิกุลทอง

3 months ago | [YT] | 533

วันดีดี

หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ เป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณที่ชาวไทยให้ความนับถืออย่างสูง
โดยท่านถือเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทหล่อหลอมศรัทธาแก่ผู้คนในลุ่มน้ำแห่งนครชัยศรี
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม ความศรัทธา และคุณค่าทางจิตวิญญาณ


หลวงพ่อเปิ่น หรือ พระอุดมประชานาถ
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2466 ในครอบครัวชาวนาเรียบง่ายในจังหวัดนครปฐม
จากวัยเยาว์ที่สัมผัสศาสนาในชุมชน ท่านได้แสดงความสนใจในพระพุทธธรรมอย่างลึกซึ้งตั้งแต่ยังเด็ก
จุดนี้เองเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ท่านได้เข้ามาบวชเรียน
และเริ่มต้นวิถีชีวิตสงฆ์ที่กลายเป็นตำนาน



วัดบางพระ ซึ่งเป็นสถานที่ที่หลวงพ่อเปิ่นจำพรรษา
นอกจากจะเป็นวัดที่สงบงดงามท่ามกลางธรรมชาติของลุ่มน้ำนครชัยศรี
ยังเป็นแหล่งรวมศรัทธาของนักปฏิบัติธรรมและผู้ที่แสวงหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
ท่านมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะในด้านการสักยันต์
ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในหมู่ชาวบ้านและกลุ่มคนจากทั่วประเทศ

ชื่อเสียงของหลวงพ่อเปิ่นเด่นชัดจากการที่ท่านได้ช่วยให้ผู้คนพบกำลังใจ
ผ่านศาสตร์และวิชาพื้นถิ่น สักยันต์ของท่านไม่ใช่เพียงแค่ศิลปะบนร่างกาย
แต่เป็นการอุดมด้วยพุทธคุณที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อ ศรัทธา
และพลังด้านบวกที่สร้างแรงสนับสนุนให้ผู้คนสามารถต่อสู้กับอุปสรรคในชีวิต

แม้หลวงพ่อเปิ่นจะละสังขารไปแล้วในปี พ.ศ. 2545
แต่เรื่องเล่า ประวัติ และตำนานของท่านยังคงอยู่ในหัวใจของลูกศิษย์และประชาชนทั่วไป
ปัจจุบันวัดบางพระยังคงเป็นแหล่งเสริมสร้างจิตใจที่ผู้คนนิยมเดินทางมากราบไหว้และขอพรจากองค์ท่านอย่างไม่เสื่อมคลาย
พุทธคุณของท่านได้กระจายตัวผ่านยันต์ต่างๆ หลายแบบ ซึ่งยังได้รับความนิยมอย่างสูงในทุกวันนี้


กล่าวได้ว่า หลวงพ่อเปิ่น ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกจิอาจารย์ผู้ทรงศีลธรรม
แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังใจและสายสัมพันธ์วิถีชีวิตของคนไทย
ที่ผูกพันกับพระศาสนา ท่านเปรียบเหมือนสะพานศรัทธาที่ไม่มีวันขาดสาย เชื่อมโยงจนถึงคนรุ่นหลังอย่างงดงาม



รับฟังต่อได้ที่นี่ https://youtu.be/vHkC7Q4q0bY

-----------------------------------------------------
#หลวงพ่อเปิ่น #วัดบางพระ #เสือเผ่น #เกจิอาจารย์ #เกจิชื่อดัง #พระเครื่อง #พระ

3 months ago | [YT] | 351

วันดีดี

หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปญฺโญ (29 เมษายน พ.ศ. 2447 — 17 มกราคม พ.ศ. 2533)

เป็นพระภิกษุชาวไทยผู้จำพรรษาอยู่ที่วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดดเด่นด้วยความเมตตา และความเชี่ยวชาญในการสอนวิปัสสนากรรมฐานให้แก่ศิษยานุศิษย์

ผู้ที่มาพบปะเพื่อกราบไหว้ท่านได้รับการดูแลอย่างเสมอภาค ไม่เลือกชั้นวรรณะ

จุดเด่นอีกประการที่เป็นเอกลักษณ์ของท่านคือ การแจกพระพิมพ์เนื้อปูนในรูปแบบต่างๆ

เพื่อใช้เป็นอุบายสำหรับการปฏิบัติภาวนาและนั่งสมาธิ นอกจากนี้

ท่านยังมีวัตถุมงคลที่เลื่องชื่อ ได้แก่ พระเหนือพรหม ซึ่งถือเป็นสิ่งมงคลที่ได้รับการสืบทอดมา




หลวงปู่ดู่อุทิศตนในการอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ในด้านการปฏิบัติภาวนา

โดยไม่ได้ออกจากวัดสะแกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 เนื่องจากเกรงว่าผู้ที่เดินทางมาพบท่านจะเสียกำลังใจหากไม่พบ

เมื่อถึงช่วงบั้นปลายชีวิต แม้ท่านจะมีธาตุขันธ์ที่ทรุดโทรมและได้รับทุกขเวทนา

แต่ยังคงยืนหยัดอยู่ที่วัดโดยไม่ยอมออกไปรักษานอกวัด

เพื่อให้ผู้ที่มากราบไหว้ได้พบกับท่านเสมอ



สิ่งนี้สะท้อนถึงความอดทนและความเมตตาอันลึกซึ้งของหลวงปู่ดู่

ยากที่จะหาใครเสมอเหมือน ปฏิปทานี้คงอยู่กับท่านจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ทำให้หลวงปู่ดู่เป็นพระสุปฏิปันโนที่ผู้คนน้อมกราบไหว้ด้วยความเคารพศรัทธาอย่างแท้จริง



รับฟังต่อได้ที่นี่ https://youtu.be/S2WbAT7rUd4

#หลวงปู่ดู่ #วัดสะแก #พระ #เกจิชื่อดัง #เกจิอาจารย์ #พระเครื่อง

3 months ago | [YT] | 750

วันดีดี

เขี้ยวเสือของหลวงพ่อปาน พิมพ์อ้าปาก นับเป็นของหายาก

มีค่าประเมินถึงหลักล้านด้วยคุณสมบัติที่ทรงพุทธคุณและอำนาจ เสือหลวงพ่อปาน

วัดบางเหี้ย วัดคลองด่าน เป็นผลงานของพระเกจิสำคัญที่สร้างความศรัทธา

ในพุทธศาสนาของสยาม หลวงพ่อปาน หรือ "พระครูพิพัฒน์นิโรธกิจ"

วัดมงคลโคธาวาส จ. สมุทรปราการ เป็นที่รู้จักในด้านเครื่องรางที่หนังเหนียว



ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2368 ที่คลองนางโหง ตำบลบางเหี้ย (ปัจจุบันคือ ตำบลคลองด่าน)

จังหวัดสมุทรปราการ ท่านเป็นลูกของนายปลื้มและนางลูกตาล เกษตรกรในท้องถิ่น

มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน โดยท่านเป็นลูกคนที่สาม

ในวัยเด็ก ท่านมีความชาญฉลาดและสุขภาพแข็งแรง ฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่อย่างเคร่งครัด



เมื่ออายุ 20 ปี หลวงพ่อปานได้บวช ณ วัดอรุณราชวราราม

หลังการบวช ท่านได้ศึกษาในด้านวิปัสสนากรรมฐานและไสยศาสตร์จนเชี่ยวชาญ

โดยได้รับการถ่ายทอดความรู้จากหลายคณาจารย์

เช่น หลวงปู่แตง ผู้มีชื่อเสียงด้านวิปัสสนา ไสยเวท และมนต์คาถา จากวัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี

ก่อนจะกลับมาที่วัดมงคลโคธาวาส และต่อมาก็ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส



หลวงพ่อปานมรณะวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2453 อายุ 85 ปี

เครื่องรางเขี้ยวเสือของท่านถือว่าเป็นที่นิยมมากในหมู่คนรุ่นเก่า

ด้วยกิตติศัพท์ที่ขจรขจายไปทั่ว วัดคลองด่าน จ.สมุทรปราการ



หลังการบวช ท่านได้ศึกษาในด้านวิปัสสนากรรมฐานและไสยศาสตร์จนเชี่ยวชาญ

รับฟังต่อได้ที่นี่
https://youtu.be/1ygpaXm_GGw
------------------------------------------------------------------------------
#หลวงพ่อปานวัดคลองด่าน #หลวงพ่อปาน #วัดคลองด่าน #วัดบางเหี้ย #เสือหลวงพ่อปาน #พระ #พระเครื่อง
#พระเกจิ

4 months ago | [YT] | 329

วันดีดี

พระเกจิที่ได้รับความสนใจอย่างสูงในปีนี้ คือพระราชวัชรธรรมโสภณ
หรือที่รู้จักในชื่อหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท
แห่งวัดพระธาตุหมื่นหิน ในตำบลกุดปลาค้าว อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์
วัตถุมงคลของท่านนั้นเป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่ผู้มีศรัทธาและนักสะสมพระเครื่อง
หลวงปู่มหาศิลามีชีวิตและการปฏิบัติธรรมที่เรียบง่ายและมั่นคง
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2488 โดยมีชื่อเดิมว่า ศิลา นิลจันทร์
ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปีที่วัดธาตุประทับ
หลังจากนั้นได้อุปสมบทเข้าสังกัดมหานิกายในปี พ.ศ. 2509 ที่วัดบูรพาภิราม จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยพระสิริวุฒิเมธี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ดในช่วงเวลานั้น
หลวงปู่ได้ศึกษาปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น จนสอบได้นักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม 6 ประโยค
รับพัดเปรียญจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในปี พ.ศ. 2515

รับฟังได้ที่นี่
https://youtu.be/HAjJ9nJtq0E
----------------------------------------------------------------------
#หลวงปู่มหาศิลา #พระราชวัชรธรรมโสภณ #ท่านเจ้าคุณมหาศิลา #เกจิดังภาคอีสาน
#ตำนาน #พระเกจิ

4 months ago | [YT] | 512

วันดีดี

หลวงพ่อปาน โสนันโทเถระ วัดบางนมโค บ้านหัวไผ่ ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


พระครูวิหารกิจจานุการ มีนามเดิมว่า ปาน สุทธาวงศ์
เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2418 ตรงกับรัชกาลที่ 5
ณ บ้านตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โยมบิดาชื่อ อาจ โยมมารดาชื่อ อิ่ม นามสกุล สุทธาวงศ์
โดยอาชีพทางครองครัว คือ ทำนา
สาเหตุที่โยมบิดาขนานนามท่านว่า “ปาน”
เนื่องจากท่านมีสัญลักษณ์ประจำตัวคือปานแดงอยู่ที่นิ้วก้อยมือซ้าย
ตั้งแต่โคนนิ้วถึงปายนิ้ว คล้ายปลอกนิ้ว

หลวงพ่อปานในวัยเด็ก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านได้เล่าไว้ในหนังสือประวัติหลวงพ่อปานว่า
“…หลวงพ่อปานบอกว่า สมัยท่านเป็นเด็กอายุสัก 3-4 ขวบ ท่านวิ่งเล่นใต้ถุนบ้าน
หลวงพ่อปาน ท่านเป็นคนบางนมโค และเป็นคนตำบลนั้น ไม่ใช่คนที่อื่น
เป็นคนที่มีฐานะค่อนข้างจะมั่งคั่งอยู่สักหน่อย สมัยนั้นเขามีทาสกัน ที่บ้านท่านก็มีทาส
ท่านบอกว่า ท่านวิ่งเล่น อยู่ใต้ถุนบ้านย่าของท่าน
ก็ปรากฏว่าย่าของท่านกำลังป่วยหนัก ใกล้จะตาย
เวลานั้นก็เห็นจะเป็นเวลาบ่ายสัก 2-3 โมงกว่า ท่านว่าอย่างนั้นโดยประมาณ
คนทุกคนเขามาเยี่ยมย่า พ่อแม่ของท่านก็ไป
เมื่อคนทุกคนขึ้นไปแล้ว ท่านบอก เห็นร้องดังๆ บอก
แม่ แม่ อรหันนะ อรหัน ภาวนาไว้ อรหัน พระอรหัน จะช่วยแม่
ก็ร้องกันเสียงดังๆ ท่านอยู่ใต้ถุน ท่านยืนฟัง เขาว่าอรหันกันทำไม
พอท่านสงสัยก็ย่องขึ้นไปที่หน้าบันไดชานเรือน
พอท่านขึ้นไปแล้วก็ปรากฏว่า ผู้อยู่เขาเอาปากกรอกไปที่ข้างหูของคุณย่าท่าน
บอกแม่ แม่ อรหันนะ อรหัน
แต่ว่าพอผู้ใหญ่เขามองเห็นท่านเข้าไป เขาก็ไล่ท่านไป
เขาจะหาว่าไอ้เจ้าเด็กมันรุ่มร่าม ท่านก็เลยไปเล่นใต้ถุนบ้านอื่น

พอมาถึงตอนเย็น เวลากินข้าว ท่านแม่ก็ป่าวหมู่เทวฤทธิ์คือเรียกลูกกินข้าว
เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้วท่านแม่ก็จัดกับข้าวมาวางกลาง
สำหรับตัวท่านเองเป็นเด็ก เขาเอาข้าวใส่จานมาให้แล้วเอาแกงเผ็ด
ท่านบอกว่า ไอ้แกงฉู่ฉี่แห้ง ท่านชอบ เขาใส่มาให้
เรียกว่า ไม่ต้องหยิบกับข้าว กินแบบประเภทข้าวราดแกง
เวลาที่ท่านกินเข้าไปแล้วมานั่งนึกว่า กับข้าวมันอร่อยถูกใจ ก็เกิดความชุ่มชื่น
พอจิตมันนึกขึ้นได้ว่าเขาบอก อรหัง อรหัง นึกถึงคำว่า อรหัง ขึ้นมาได้
ท่านก็เลยปลื้มใจอย่างไรชอบกล เลยเปล่งวาจาออกมาดังๆว่า อรหัง อรหัง ว่า 2-3 คำ

ท่านแม่ที่มองตาแป๋วลุกพรวด จับชามข้าวที่ท่านถืออยู่วางไว้
จับตัวท่านวางปังออกไปนอกชาน แล้วร้องตะโกน
“เอ้า มึงจะตายโหง ตายห่าก็ตายคนเดียว มันจะมาว่า อรหัง ที่นี่ได้รึ
คำว่า อรหัง พุทโธ นี่คนเขาจะตายเท่านั้นแหละเขาว่ากัน
นี่ดันมาว่า อรหัง ที่นี่ ทำเป็นลางร้ายให้คนอื่นเขาพลอยตายด้วย”

ท่านแปลกใจ คิดว่า นี่เราว่าดีๆ นี่แม่ดุเสียงเขียวปัด นี่มันเรื่องอะไรกัน
ในเมื่อถูกแม่ดุอย่างนั้น จะขืนว่าอีกก็เกรงไม้เรียว ก็เลยไม่ว่า
พอท่านพูดถึงตอนนี้แล้ว ท่านก็หัวเราะบอกว่า
“คุณแม่ฉันน่ะโง่นะ ไม่ได้ฉลาดหรอก อีตอนใหม่นั้น ตอนฉันมาบวชได้แล้ว
อรหังหรือพุทโธนี้ ถ้าใครภาวนาไว้
เป็นวาจาที่กล่าวถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด
ถ้าใครภาวนาคำนี้ได้ตกนรกไม่ได้…แต่ว่าแม่ของฉัน นี่ท่านไม่รู้
ก็เป็นโทษเพราะไม่ได้รับการศึกษา แต่ว่าไม่เป็นหรอก
ตอนหลังที่ฉันบวชแล้วนี่นะ ฉันกลับใจแม่ของฉันได้
ฉันแนะนำให้ท่านทราบแล้ว เวลาท่านตายท่านก็ยึดพุทโธ อรหังเป็นอารมณ์
แต่ไม่ได้ยึดเวลาตาย ฉันให้ท่านว่าทุกวัน….”

สมัยก่อน เมื่อลูกชายมีอายุครบบวช ก็จะทำการอุปสมบท
ทางบิดามารดาจะต้องส่งบุตรของตนไปอยู่วัดเพื่อรับการอบรม
และท่องขานนาคเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน เป็นอย่างน้อย
ท่านเองมีความสงสัยในใจว่า เหตุไฉนสตรีเพศจึงดึงดูดบุรุษเพศมากมายนัก
ทำให้หลงใหลใฝ่ฝัน ตัวท่านเองก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงมาก่อน
จึงคิดว่าจะหาวิธีลองของจริงดูว่าเป็นอย่างไร
ถ้าดีจริงบวชครบพรรษาจะสึกออกมา
ถ้าไม่เป็นจริงตามวิสัยโลกก็จะไม่สึก
ที่บ้านของท่านมีคนรับใช้อยู่คนหนึ่งเรียกกันว่าทาส ชื่อว่าพี่เขียว อายุประมาณ 25 ปี
ตอนกลางวันอยู่ด้วยกันสองคน ท่านเกิดสงสัยเนื้อผู้หญิงขึ้นมา
บอกว่าตั้งแต่เกิดมานอกจากเนื้อแม่กับเนื้อพี่แล้ว ไม่เคยจับเนื้อใคร
ท่านคิดว่าเนื้อผู้หญิงมันดียังไงผู้ชายถึงได้อยากกันนัก บางทีถึงกับฆ่ากันเลย
ก็สงสัยว่าจะบวชแล้วนี่ ถ้ามันดีจริงแล้วก็จะสึก ถ้าไม่ดีก็จะไม่สึกละ

เมื่อคนว่างก็เข้าไปหาพี่เขียว พี่เขียวแกอยู่ในครัว เป็นทาส
แต่ว่าท่านเรียกพี่ในฐานะที่เขาแก่กว่าตัว ยกมือไหว้ บอกว่า
“พี่เขียว ขออภัยเถอะ ฉันขอจับเนื้อพี่เขียวดูหน่อยได้ไหม
ว่าเนื้อผู้หญิงน่ะมันดียังไง เขาถึงชอบกันนัก”

พี่เขียวก็แสนดี อนุญาต ท่านก็เลือกจับเนื้อกล้าม เขาเรียกว่า กล้ามเนื้อที่หน้าอก
ผู้หญิงนี้มีกล้ามเนื้อพิเศษ อยู่ที่กล้ามเนื้อ 2 กล้ามที่หน้าอก
แต่ไม่ได้จับมากหรอก จับตรงนั้น แต่ก็ไม่ได้ลวนลามไปถึงไหน
จับๆ แล้วก็มาจับน่อง เอ๊! มันคล้ายกัน

บอกพี่เขียวว่านี่มันคล้ายกันนี่ พี่เขียวแกก็บอกว่าเป็นอย่างนั้นมันก็คล้ายกัน
แล้วท่านก็ถามพี่เขียวว่า ทำไมผู้ชายเขาถึงชอบเนื้อผู้หญิงนัก
ดันไปถามผู้หญิงได้ นี่ว่ากันอย่างเราๆนะ
แล้วเขาจะตอบอย่างไร เขาก็บอกไม่รู้เหมือนกัน

แล้วท่านก็ยกมือไหว้ขอขมาพี่เขียวบอกว่า
“ขอโทษ ที่ขอจับเนื้อนี่ไม่ได้ดูถูกดูหมิ่น อยากจะพิสูจน์เท่านั้นว่ามันดีอย่างไร”
เมื่อท่านหมดความสงสัยในใจแล้ว ก็ตกลงใจว่าจะบวช
คราวนี้จะไม่ขอสึกหาลาเพศ ก็สมจริงกับที่ท่านตั้งใจทุกประการ

หลังจากที่โยมมารดาบิดาได้นำท่านมาฝากไว้กับหลวงปู่คล้าย
ให้ฝึกหัดขานนาคให้คล่องแคล่วแล้ว
ท่านก็ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดบางนมโค เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2438
ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม
โดยมี หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์จ้อย วัดบ้านแพ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์อุ่ม วัดสุธาโภชน์ เป็นอนุสาวนาจารย์
มีฉายาว่า “โสนันโท”



รับฟังต่อได้ที่นี่
https://youtu.be/ZlfETQ_JKh0

#หลวงพ่อปาน #ตำนาน #เกจิอาจารย์ #พระ #พระเครื่อง #history

4 months ago | [YT] | 356

วันดีดี

เรื่องเล่าขานตำนานความศักดิ์สิทธิ์-ปาฏิหาริย์ของ หลวงพ่ออี๋​ วัด​สัตหีบ​ จังหวัดชลบุรี

พระผู้ยืนบริกรรมคาถาหน้าระเบิด หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดสัตหีบ

ว่าตรงกันว่า ท่านเป็นที่พึ่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 8 ของไทย ที่มีเรือ่งเล่าถึงอิทธิปาฏิหาริย์ของท่าน

ว่าหลวงพ่ออี๋ยกผ้าเหลืองโบกไปโบกมา พร้อมทั้งยืนบริกรรมพระคาถาอย่างสงบนิ่ง

ลูกระเบิดที่หย่อนมาจากเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรหมายถล่มตลาดและฐานทัพเรือให้ราบเป็นจุล

กลับเบี่ยงเบนปลิวไปตกในทะเลจนหมดสิ้น ไม่อาจทำลายฐานทัพเรือและชีวิตของประชาชนชาวอำเภอสัตหีบได้

รับฟังต่อได้ที่นี่
https://youtu.be/HJwFffYgGNM

#หลวงพ่ออี๋ #พระเกจิ #วัดสัตหีบ #เกจิอาจารย์ดัง #จาดจงคงอี๋ #ตำนาน #history

4 months ago (edited) | [YT] | 264