Ajahn's Blessings

ขอต้อนรับสู่ช่อง “Ajahn's Blessings”
ช่องที่จะพาคุณย้อนรอยสู่เรื่องเล่าศักดิ์สิทธิ์ของพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองวิชา ทั้งประวัติที่น่าศึกษา ตำนานที่เล่าขานกันมาหลายรุ่น รวมถึงวัตถุมงคล พระเหรียญ พระเครื่อง และของขลังต่าง ๆ ที่เปี่ยมด้วยพุทธคุณ ถ่ายทอดด้วยความเคารพและศรัทธา เพื่อผู้ที่สนใจศึกษาธรรม วิชาพุทธาคม และตำนานพระเกจิ รวมถึงนิยายเสียง
อย่าลืมกดติดตาม กดกระดิ่ง และรับฟังทุกเรื่องราวที่จะทำให้คุณศรัทธามากยิ่งขึ้น 🙏


Ajahn's Blessings

“ตำนานหลวงพ่อชม”
“เหรียญศักดิ์สิทธิ์… หายากที่สุด”

ตำนานหลวงพ่อชม วัดพุทไธศวรรย์ พระเกจิผู้สร้างคุณูปการมากมาย ทั้งการบูรณะวัด การปกครองคณะสงฆ์ และการสร้างเหรียญศักดิ์สิทธิ์ที่หายากยิ่ง เรื่องราวแห่งศรัทธาที่ไม่ควรถูกลืม ฟังจบแล้วจะเข้าใจว่า ทำไมท่านจึงเป็นที่เคารพศรัทธาจนถึงวันนี้

#หลวงพ่อชม #วัดพุทไธศวรรย์ #ตำนานพระเกจิ #พระเครื่อง #เหรียญหายาก #อยุธยา

2 days ago | [YT] | 52

Ajahn's Blessings

"สวัสดียามสิริมงคลครับทุกท่าน...
ท่ามกลางความเงียบสงัดในห้องกรรมฐานอันอบอวลด้วยไอแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดประดู่ฉิมพลี ในคิมหันตฤดูปีหนึ่ง แสงแดดรำไรลอดผ่านหน้าต่างกุฏิหลวงปู่โต๊ะ กลิ่นอบเชยและว่านยาที่ใช้ทำพระปิดตาอบอวลไปทั่วบริเวณ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ในวัยที่บารมีกำลังแก่กล้า ได้เดินทางมาเข้าพบหลวงปู่โต๊ะ เพื่อสนทนาธรรม และแลกเปลี่ยนเคล็ดวิชา การบรรจบกันของสองสายธารแห่งพุทธาคม เมื่อ 'เสือแห่งลุ่มน้ำท่าจีน' อย่างหลวงพ่อสุด เดินทางมาพบกับ 'เทพเจ้าแห่งความเมตตา' อย่างหลวงปู่โต๊ะ ...

ในยามพลบค่ำที่เสียงระฆังวัด ดังแว่วมาตามลม หลวงพ่อสุดในวัยหนุ่มใหญ่ผู้มีความเชี่ยวชาญในยันต์ตะกร้อ และวิชาคงกระพัน ได้เข้ากราบหลวงปู่โต๊ะเพื่อสนทนาถึง "ทางธรรม" และ "พลังจิต"

หลวงปู่โต๊ะผู้มีใบหน้ายิ้มแย้มและแววตาที่สงบนิ่งดั่งมหาสมุทร ได้ชี้แนะว่า “การมีเกราะเหล็กคุ้มกายนั้นดี แต่มันสู้มีเกราะเมตตาคุ้มใจไม่ได้นะท่านสุด” 

แม้หลวงพ่อสุด จะขึ้นชื่อเรื่องความเหนียวชนิดแมลงวันไม่ได้กินเลือด... แต่ท่านก็ตระหนักดีว่า 'การมีอำนาจแต่ไร้เมตตา'

จากนั้นหลวงพ่อสุดจึงได้ขอรับการถ่ายทอด “วิชาเมตตามหานิยมชั้นสูง”  “การเข้าฌานกสิณเพื่อลาภผล” 
"วิชาพระสังกัจจายน์" และ "วิชาการทำผงอิทธิเจ" จากหลวงปู่โต๊ะ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความเมตตา และโชคลาภอย่างที่สุด

เพื่อนำมาบรรจุลงในวัตถุมงคลของท่าน ให้ไม่ได้มีเพียงแค่ความ 'เหนียว' แต่ต้องมีความ 'รวย' และ 'เมตตา' ควบคู่กันไป

วิชาสำคัญที่หลวงพ่อสุดมักนำมาใช้ควบคู่กับยันต์ตะกร้อหลังจากการแลกเปลี่ยนกับหลวงปู่โต๊ะ คือ "คาถาพระปิดตา (นะมิ)" และ "คาถาหัวใจมหาเศรษฐี" โดยมีหัวใจสำคัญคือการบริกรรมคาถาพร้อมกับการกำหนดลมหายใจให้เป็นหนึ่งเดียว

พระคาถาอาราธนาพุทธคุณ ตามแนวทางที่ท่านได้ศึกษามา

"นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ" (๓ จบ)
"นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู"
"จะภะกะสะ นะมะพะทะ" (หัวใจธาตุสี่ เพื่อความคงกระพัน)
"นะชาลีติ" (หัวใจพระสีวลี เพื่อโชคลาภและเมตตา)

นะเมตตา... ยะเอ็นดู: เป็นบทที่หลวงพ่อสุดเน้นย้ำ เพื่อปรับสมดุลให้ผู้ที่พกพาตะกรุดของท่าน ไม่ให้มีนิสัยวู่วามหรือดุดันเกินไป แต่ให้ได้รับความรักความสงสารจากผู้ใหญ่และศัตรู

จะภะกะสะ นะมะพะทะ: คือการหนุนธาตุให้วัตถุมงคลมีพลังอำนาจ ป้องกันศาสตราวุธ (คงกระพัน)

นะชาลีติ: เป็นบทที่ได้รับอิทธิพลจากสายหลวงปู่โต๊ะ เพื่อเปิดทางให้ผู้บูชาไม่อดไม่อยาก มีลาภสักการะไหลมาเทมา

ด้วยเหตุนี้ วัตถุมงคลของหลวงพ่อสุดในรุ่นหลังๆ เช่น เหรียญเสือเผ่น หรือตะกรุดโทน จึงมีอานุภาพแปลกประหลาด คือใครพกพาแล้วมักจะมีโชคลาภลอยมาแบบไม่คาดฝัน และเจ้านายมักจะให้ความอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นอิทธิพลจากสายวิชาของหลวงปู่โต๊ะนั่นเอง

ความสัมพันธ์ของท่านทั้งสองแน่นแฟ้นถึงขั้นที่หลวงปู่โต๊ะเคยกล่าวว่า "หลวงพ่อสุดท่านมีจิตที่นิ่งดั่งหินผา" และท่านทั้งสองยังมักถูกนิมนต์ให้ไปนั่งปรกปลุกเสกร่วมกันในพิธีใหญ่ๆ อยู่เสมอ เสมือนเป็นการรวมพลังของ 'เหล็กกล้า' และ 'แพรไหม' เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว....

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
หากท่านศรัทธาในเรื่องราวตำนานพระเกจิ
อย่าลืมกดติดตาม กดถูกใจ และแบ่งปัน...

เพื่อให้เรื่องราวแห่งศรัทธา คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน 🙏

#ตำนานพระเกจิไทย #หลวงพ่อสุดวัดกาหลง #หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี #สายพระต้องดู #เรื่องเล่าขลัง

2 days ago (edited) | [YT] | 627

Ajahn's Blessings

ตอนที่ 2 “พระแท้... ไม่ใช่ผู้ห่มผ้าเหลือง
แต่คือผู้ละโลกธรรมทั้งปวง”

สวัสดีครับ…
วันนี้ผมจะพาทุกท่านย้อนกลับไปในบรรยากาศอันเข้มขลังของพระเกจิผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ เมื่อครั้งที่พระเกจิชั้นครูทั้งหลายยังคงเป็นเสาหลักแห่งพระพุทธศาสนา และเป็นที่เคารพศรัทธาของมหาชนทั่วทุกสารทิศ...

ในสมัยนั้น หากเอ่ยนามพระเกจิผู้ยิ่งใหญ่ ก็คงไม่พ้น หลวงพ่อปั้น วัดพิกุล, หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ, หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน และหลวงพ่อแสง วัดพะเนียงแตก จังหวัดนครปฐม
ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นพระเกจิที่ชื่อก้องเมือง ผู้คนเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก

และแล้ว...ฟ้าก็เหมือนกำหนดเส้นทาง เมื่อ หลวงพ่อปาน ได้มีวาสนาไปฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ
สิ่งที่ท่านได้รับ…หาใช่เพียงความเมตตา แต่คือการยอมรับอย่างเป็นทางการ ว่าเป็น “ลูกในธรรม” ของหลวงพ่อสุ่น เพียงได้ยินเท่านี้ หลวงพ่อปานก็ปลื้มปิติ จนน้ำตาแทบริน…คิดไม่ถึงว่าตนเองจะเป็นบุคคลที่พระอริยเจ้าผู้เลื่องชื่ออย่างหลวงพ่อสุ่นต้องการตัว

🔔 คำสอนแรกจากหลวงพ่อสุ่น
หลวงพ่อสุ่นเมตตากล่าวกับท่านว่า...
“ปานเอ๋ย... การบวชนั้นเป็นของยากนะลูก แต่ไม่ยากเกินใจจะทำได้
เจ้าจงจำไว้เสมอ... อย่าบวชเป็นทาสของกิเลสตัณหา แต่จงบวชเพื่อพระนิพพาน...”
แล้วท่านก็เปิด “หนังสือเจ็ดตำนาน” ให้ดู พร้อมชี้ไปที่คำขานนาค

“นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา”— แปลว่า “เราขอรับผ้ากาสาวพัสตร์ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน”
เสียงของหลวงพ่อสุ่นหนักแน่น ราวกับแผ่นฟ้าที่สั่งสอนมนุษย์ให้รู้แจ้งว่า...
พระแท้ คือผู้ละทิ้งโลกธรรม ไม่เกาะเกี่ยว ไม่หวั่นไหว

🌏 โลกธรรม ๘ ที่พระแท้ต้องละ
หลวงพ่อสุ่นได้เตือนศิษย์รักว่า…
อยากรวย ดีใจเมื่อได้ทรัพย์
เสียใจเมื่อทรัพย์หมด
อยากมียศ มีตำแหน่งสูง
ทุกข์ใจเมื่อยศสลาย
เดือดร้อนเมื่อถูกนินทา
ปลื้มใจเมื่อได้คำสรรเสริญ
เพลิดเพลินในกามสุข
หวั่นไหวเมื่อพบความทุกข์
สิ่งเหล่านี้...คือเครื่องผูกมัด คือโซ่ตรวนแห่งวัฏสงสาร

หากพระรูปใดยังยึดติด พระรูปนั้น...ย่อมไม่อาจก้าวสู่พระนิพพานได้

คำเตือนอันขลัง
“ปานเอ๋ย... พระแท้ อย่ารวย อย่าสะสมเงินทอง เงินได้มาควรใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์

พระแท้ อย่าเมายศ ยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นเพียงเครื่องผูกพัน เป็นกิเลส เป็นตัวถ่วง...
จงบวชเพื่อพระนิพพานเท่านั้น”
เสียงคำสอนสะท้อนก้องในหัวใจหลวงพ่อปาน…นี่คือเส้นทางของผู้สละแล้วซึ่งโลกทั้งปวง

🔑 บททดสอบศิษย์เอก
ก่อนจะมอบวิชาอันล้ำค่า หลวงพ่อสุ่นมอบบททดสอบเล็ก ๆ ให้ศิษย์รัก
“เอาคาถานี้ไป — นะ มะ พะ ธะ
ให้ท่องถอยหลัง แล้วเอาไปเป่ากุญแจ…
ถ้าวันใดเจ้าสามารถเป่าจนกุญแจหลุด… จงกลับมาหาพ่อ พ่อจะถ่ายทอดของดีทั้งหมดที่มี ไม่เหลือไว้เลย…”

คำกล่าวนั้นไม่เพียงเป็นบททดสอบ หากยังเป็นประตูสู่ขุมทรัพย์ทางธรรมและเวทมนตร์อันศักดิ์สิทธิ์

เรื่องราวนี้มิใช่เพียงตำนาน แต่คือคำสอนอันเป็นอมตะจากพระเกจิผู้ยิ่งใหญ่
เป็นคำเตือนใจว่า… พระแท้ไม่ใช่เพียงผู้ห่มผ้าเหลือง แต่คือผู้ละโลกธรรมทั้งปวง
สหายผู้ฟังทุกท่านครับ… หากท่านศรัทธาในเรื่องราวตำนานพระเกจิอันขลังนี้
ขอฝากกดติดตาม กดไลก์ และกดกระดิ่งเอาไว้ เพื่อรับฟังตำนานขลังที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังอีก

ขอบคุณที่อยู่ร่วมกันจนจบ…
ขอให้ข้อคิดนี้เป็นแสงนำทางให้ทุกท่านก้าวไปอย่างมั่นคงในชีวิตครับ 🙏

#หลวงพ่อสุ่น #หลวงพ่อปาน #ตำนานพระเกจิ #โลกธรรม8 #ธรรมะขลัง #คาถานะมะพะธะ #ตำนานพระเกจิอาจารย์

3 days ago | [YT] | 299

Ajahn's Blessings

ตอนที่ 1 “หลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ
ครูใหญ่ศรัทธาแห่งอยุธยา”

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน…
วันนี้ผมจะพาทุกท่านย้อนรอยกลับไปยังแผ่นดินเก่าแก่ พระนครศรีอยุธยา…

ดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยตำนาน ศรัทธา และร่องรอยแห่งความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อฟังเรื่องราวของ “พระอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวัดบางปลาหมอ” …

หลวงปู่สุ่น สุนทโร ผู้เป็นครูบาอาจารย์ของพระเกจิชื่อก้องฟ้าเมืองไทย อย่างหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก แม้ชื่อเสียงของหลวงปู่สุ่น อาจจะไม่โด่งดังเท่าศิษย์เอกทั้งสอง แต่หากย้อนมองในยุคสมัยนั้น …

ท่านคือเสาหลักแห่งศรัทธา เป็นหมอยาที่ชาวบ้านเคารพรัก เป็นพระผู้แตกฉานในกรรมฐาน และเก่งกล้าในวิชาอาคม
ชาวอำเภอเสนา บางบาล บางไทร และหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างหลั่งไหลมากราบขอพึ่งบารมีของท่าน เล่าขานถึงความเมตตา ความศักดิ์สิทธิ์ และความเป็นครูแท้

เรื่องราวชีวิตของหลวงปู่สุ่น
น่าเสียดายที่หลักฐานทางประวัติไม่ชัดเจน
สิ่งที่เรารู้ส่วนใหญ่ ล้วนเล่าสืบต่อกันมา
แต่จากรูปถ่ายและหลักฐานทางราชสำนัก ทำให้คาดว่า ท่านเกิดราวปี พ.ศ. ๒๓๕๘ ในรัชกาลที่ ๓ หรืออาจจะเป็นช่วง พ.ศ. ๒๓๖๙–๒๓๗๓

อายุใกล้เคียงกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย และหลวงพ่อปั้น วัดพิกุล มีหลักฐานสำคัญคือ ภาพถ่ายหลวงพ่อสุ่นคู่กับพัดรอง
ที่จารึกว่าเป็นงานพระเมรุพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์
ในปี พ.ศ. ๒๔๒๙ …

นั่นพิสูจน์ได้ว่าท่านได้รับนิมนต์ในงานพระราชพิธีสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น พระราชนิพนธ์ “ประพาสต้น” ของรัชกาลที่ ๕ ปี พ.ศ. ๒๔๔๙
ได้กล่าวถึงเจ้าอธิการวัดบางปลาหมอ “พระอาจารย์หมอ” ผู้รักษาคนบ้า ซึ่งนั่นก็คือ “หลวงพ่อสุ่น” นั่นเอง

หลักฐานนี้บ่งชี้ว่าท่านสิ้นชีพิตักษัยราวปี พ.ศ. ๒๔๔๗ สิริอายุประมาณ ๘๙–๙๐ ปี และยังมีการเล่าว่าท่านอาจเกี่ยวดองกับสมเด็จกรมพระยาปวเรศวิริยาลงกรณ์
ทำให้บารมีของท่าน ยิ่งเป็นที่เคารพยำเกรง

เรื่องเล่าเกจิสหธรรมิก
หนึ่งในเรื่องราวที่ยังคงเล่าสืบต่อกันมา
คือความสัมพันธ์อันสนิทกับ “หลวงพ่อปั้น วัดพิกุลโสคัณธ์” มีเหตุการณ์เล่าว่า วันหนึ่งหลวงพ่อปั้นแจวเรือผ่านวัดบางปลาหมอ
หลวงพ่อสุ่นเอ่ยทักขึ้น…

“เอ้า…ท่านจะไปไหนล่ะ?”
หลวงพ่อปั้นตอบว่า “จะเข้าเมือง”
หลวงพ่อสุ่นพูดต่อ… “แล้วทำไมไม่ไปเสียที รออะไรอยู่?”

หลวงพ่อปั้นหัวเราะ… “ก็ท่านมาขวางไว้นี่ จะไปได้อย่างไรเล่า” หลวงพ่อปั้นย้อนถามว่า “แล้วท่านทำอะไรอยู่ล่ะ”

หลวงพ่อสุ่นตอบเสียงเรียบ… “ก็กำลังจะกินหมากน่ะสิ”

หลวงพ่อปั้นก็แกล้งต่อ… “แล้วทำไมไม่ตำหมากเสียทีล่ะ”

หลวงพ่อสุ่นตอบว่า “ก็ท่านสิ ขัดไว้เหมือนกันนี่”

บทสนทนาง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งเมตตาและปริศนาธรรม สะท้อนถึงความสนิทสนม และภูมิปัญญาเชิงธรรมของพระอริยสงฆ์ในยุคนั้น

แม้เรื่องราวของหลวงปู่สุ่นจะไม่สมบูรณ์ในประวัติศาสตร์ แต่ร่องรอยแห่งศรัทธาที่ท่านฝากไว้กับลูกศิษย์ กับชาวบ้าน และกับบ้านเมือง…ยังคงงดงามและยิ่งใหญ่

จากครูสู่ศิษย์ จากศรัทธาสู่ตำนาน
หลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ คือพระเถระผู้เป็น “รากฐานแห่งศรัทธา” ของอยุธยาอย่างแท้จริง

บางครั้งความยิ่งใหญ่ อาจไม่ได้อยู่ที่ชื่อเสียง
แต่อยู่ที่การเป็น “ครูผู้จุดแสงไฟ”
ให้ศิษย์ก้าวสู่ความสำเร็จ และสืบทอดบารมีต่อไป

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ
หากท่านศรัทธาในเรื่องราวตำนานพระเกจิ
อย่าลืมกดติดตาม กดถูกใจ และแบ่งปันคลิปนี้

เพื่อให้เรื่องราวแห่งศรัทธา คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน 🙏

#ตำนานพระเกจิไทย #หลวงพ่อปานวัดบางนมโค #หลวงพ่อสุ่นวัดบางปลาหมอ #สายพระต้องดู #Shortsไวรัล #เรื่องเล่าขลัง

3 days ago (edited) | [YT] | 389

Ajahn's Blessings

สุดยอดเครื่องรางในตำนาน | ลูกสะกด–ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ–เขี้ยวเสือไฟโปร่งฟ้า


คลิปนี้จะพาคุณไปรู้จัก รวมสุดยอดเครื่องรางของขลังในตำนานไทย
ตั้งแต่ ลูกสะกด เครื่องรางโบราณสายมหาอุตม์ ใช้สะกดอาวุธ สะกดสิ่งชั่วร้าย
ไปจนถึง ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ หลวงปู่บุญ เครื่องรางสายมหาอำนาจ เมตตามหานิยม ค้าขายคล่อง และปิดท้ายด้วย เขี้ยวเสือไฟโปร่งฟ้า ของขลังพญาเสือในความเชื่อโบราณ ที่ขึ้นชื่อเรื่องอำนาจตบะ คงกระพัน แคล้วคลาด และป้องกันคุณไสย

เครื่องรางเหล่านี้ล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่คนโบราณเชื่อถือ พกติดกายเวลาออกรบ เข้าป่า หรือทำการค้าขาย

⚠️ คลิปนี้นำเสนอเพื่อความรู้ ความเชื่อ และตำนานพื้นบ้านไทย โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

📌 หากคุณศรัทธาในเครื่องรางของขลัง ตำนานพระเกจิ และพุทธคุณสายเข้ม อย่าลืมกดติดตามเพื่อไม่พลาดคลิปใหม่


#เครื่องรางของขลัง #ของขลังในตำนาน
#ลูกสะกด #ตะกรุดหนังหน้าผากเสือ
#หลวงปู่บุญ #เขี้ยวเสือไฟโปร่งฟ้า
#เสือไฟ #พญาเสือ #มหาอำนาจ #คงกระพันชาตรี #เมตตามหานิยม
#กันคุณไสย #ของศักดิ์สิทธิ์
#ตำนานไทย #สายมู

3 days ago | [YT] | 8

Ajahn's Blessings

เหรียญรุ่นแรก

4 days ago | [YT] | 16

Ajahn's Blessings

หลวงพ่ออ้วน โสพะโณ วัดโนนค้อ | พระเกจิผู้ล่องหนได้ วัตถุมงคลครอบจักรวาล

พระครูโสภณคุณากร หรือ หลวงพ่ออ้วน โสพะโณ ถือกำเนิดในวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2434 ตรงกับแรม 14 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ณ บ้านโนนสังข์ ตำบลโนนสังข์ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ

โยมบิดาชื่อ “จูม”
โยมมารดาชื่อ “ทุม สืบวงศ์”
ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 5 คน

เมื่ออายุ 16 ปีในวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2450 ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดโพนทราย โดยมี เจ้าอธิการสุวัณณี กัลยาโณ เป็นพระอุปัชฌาย์

ต่อมา เมื่ออายุ 19 ปี ในวันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2453 ท่านอุปสมบท ณ วัดโพนทราย โดยมีพระอุปัชฌาย์และพระคู่สวดที่เป็นครูบาอาจารย์สำคัญหลายรูป
หลังอุปสมบท

หลวงพ่ออ้วนตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง ท่านเดินทางไปตามสำนักใหญ่ที่มีชื่อเสียงเพื่อฝึกฝนทั้งด้านธรรมะ และวิชาความรู้ต่าง ๆ

พ.ศ. 2456 ท่านย้ายไปศึกษามูลกัจจายน์ คัมภีร์ทั้ง 5 ซึ่งเป็นหลักสูตรโบราณของภาคอีสานทที่วัดบ้านยางขี้นก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี กับ ท่านธรรมบาล อาจารย์ใหญ่สายสำเร็จลุน

พ.ศ. 2464 หลวงพ่อได้ไปจำพรรษาที่วัดบ้านแสงใหญ่ เพื่อเรียนการวาดลวดลายผ้าพระเวสสันดรจากพระอาจารย์โท ตลอดหนึ่งปีเต็ม จนฝีมือการวาดของท่านงดงามเป็นที่พอใจของครูบาอาจารย์

ต่อมา พ.ศ. 2476 ท่านย้ายมาจำพรรษาที่วัดบ้านหนองดินดำ และในช่วงนี้เอง ชาวบ้านเล่าขานกันถึงเหตุการณ์แปลกประหลาด—
ใต้ที่นอนของท่านเกิด “ดินประสิว” ขึ้นเป็นจำนวนมากมซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของการทำบั้งไฟ ตรงกับที่ท่านชอบทำบั้งไฟพอดี

พ.ศ. 2483 หลวงพ่ออ้วนย้ายมาวัดโนนค้อ (หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดโนนค้อใน)
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปที่ 7 ของวัด
พ.ศ. 2489 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลโนนค้อ

พ.ศ. 2490 เป็นพระอุปัชฌาย์ และใน พ.ศ. 2512 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี
ในราชทินนาม “พระครูโสภณคุณากร”

ในบั้นปลายแห่งการเผยแผ่วิชา หลวงพ่ออ้วน...มิได้เพียงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านเท่านั้น...แต่ท่านยังได้ถ่ายทอดวิชา และบ่มเพาะศิษย์จำนวนมาก...

ซึ่งในภายหลัง...กลายเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองไทยหลายต่อหลายรูป...
ศิษย์ของท่าน...มีทั้งพระอาจารย์ผู้ทรงวิชา...และเป็นที่นับถือกว้างไกล...
อาทิเช่น...
หลวงพ่อสังข์ วัดนากันตม อำเภอกันทราลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
หลวงพ่อบุญชู วัดโนนคูณ อำเภอโนนค้อ จังหวัดศรีสะเกษ
หลวงปู่บุญ วัดโคกสว่าง อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี
หลวงพ่อพรหมา วัดโนนค้อใน ตำบลโนนคูณ อำเภอโนนค้อ จังหวัดศรีสะเกษ
รวมถึง...
หลวงพ่อสี วัดโนนค้อนอก ตำบลโนนคูณ อำเภอโนนค้อ จังหวัดศรีสะเกษ
หลวงปู่เพ็ง วัดหนองสนม หรือวัดโคกสะอาดในปัจจุบัน อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ
และ...หลวงพ่อประสาร วัดโนนผึ้ง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ

พระเกจิอาจารย์เหล่านี้... ล้วนแล้วแต่สืบทอดเมตตาธรรม และคุณวิชา จากหลวงพ่ออ้วน เผยแผ่ต่อไป...ดั่งสายธารที่ไม่มีวันสิ้นสุด



วัตถุมงคลของหลวงพ่ออ้วน
เหรียญรุ่นแรก ปี 2510 มีสามเนื้อ—อัลปาก้า ฝาบาตร และทองแดง รวมกันไม่เกิน 3,000 เหรียญ เหรียญรุ่นสอง ปี 2512 ฉลองพัดยศ
ผ้ายันต์ป้องกันภัย ตะกรุดโทน
ชานหมากของท่าน (ซึ่งมีน้อยมาก)
รูปถ่ายขนาดเล็ก และวัตถุมงคลอื่น ๆ
พุทธคุณของวัตถุมงคลท่าน ครอบคลุมทั้ง
เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุต คงกระพัน และกันภูตผีปีศาจ

ปาฏิหาริย์ที่เล่าขาน
ชาวบ้านในหลายอำเภอเล่าตรงกันว่า
ท่านสามารถย่นระยะทาง ล่องหน กำบังกาย
และหายตัวได้ ผู้ที่มีวัตถุมงคลของท่าน ต่างประสบเหตุรอดพ้นภัยอย่างน่าอัศจรรย์
หลวงพ่ออ้วนเป็นสหมิกธรรมกับพระเกจิผู้ยิ่งใหญ่ในศรีสะเกษหลายรูป
เช่น หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอเหนือ
และหลวงพ่ออ่อน วัดเพียมาตร
รวมถึงยังเป็นครูบาอาจารย์ของพระเกจิยุคหลังอีกหลายรูป

วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2514
หลวงพ่ออ้วนมรณภาพ
สิริอายุ 80 ปี พรรษา 60

5 days ago | [YT] | 406

Ajahn's Blessings

ไฟไม่ไหม้สรีระ! เปิดตำนานหลวงพ่อสุด วัดกาหลง เกจิผู้ครองยันต์ตะกร้อ

หลวงพ่อสุด วัดกาหลง พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง เจ้าของวิชา “ยันต์ตะกร้อ” อันลือลั่น ผู้ซึ่งแม้แต่จอมโจรชื่อดังในอดีตยังต้องฝากตัวเป็นศิษย์

เรื่องเล่าอัศจรรย์ในวันฌาปนกิจ เมื่อไฟไม่อาจเผาสังขารของท่านได้ พร้อมเปิดตำนาน วัตถุมงคลยอดนิยม เหรียญเสือเผ่น รุ่นแรก รุ่นสี่ยอด ตะกรุดด้ายแดง ที่ผู้ศรัทธาเสาะแสวงหามาจนถึงปัจจุบัน

#หลวงพ่อสุด #วัดกาหลง #ยันต์ตะกร้อ #ตำนานพระเกจิ#เหรียญเสือเผ่น #พระเครื่องดัง #พระเกจิศักดิ์สิทธิ์
#เรื่องเล่าพระ #ไฟไม่ไหม้ #ของขลัง

5 days ago | [YT] | 51

Ajahn's Blessings

หลวงปู่สอน พุทธละมะ — ตำนานอาคมสายเหนียว แห่งเสิงสาง ‪@AJAHN-e7f‬

หลวงปู่สอน วัดเสิงสาง
คือพระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต
และยังมีความเกี่ยวเนื่องอย่างลึกซึ้งกับ
หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่
ในฐานะ “หนึ่งในพระอาจารย์ผู้ถ่ายทอดสรรพวิชาอาคม”

ในประวัติของหลวงพ่อคูณ
ได้บันทึกไว้ว่า หลังจากอุปสมบทแล้ว
ท่านได้ออกแสวงหาครูบาอาจารย์
เพื่อศึกษาทั้ง วิทยาคม และ
วิปัสสนากัมมัฏฐาน ในเขตจังหวัดนครราชสีมา และหนึ่งในนั้น…
ก็คือ หลวงปู่สอน วัดเสิงสาง
วิชาที่หลวงปู่สอนถ่ายทอด
เป็นวิชาสายแข็ง ที่หาได้ยากในยุคนั้น
ได้แก่ วิชามหาอุด คงกระพันชาตรี
และ การลงอักขระเลขยันต์
ซึ่งล้วนเป็นความเชี่ยวชาญหลักของหลวงปู่สอน ไม่เพียงเท่านั้น

หลวงปู่สอน ยังเป็นหนึ่งในอาจารย์ของ
หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน
เกจิชื่อดังอีกหนึ่งรูปของแผ่นดินอีสาน
ทำให้สายวิชาของท่าน สืบทอดต่อกันมาอย่างเข้มขลัง และบริสุทธิ์ ด้วยพลังจิตอันแก่กล้า และความสำรวมในวัตรปฏิบัติ
หลวงปู่สอนได้รับการขนานนามว่า
“พระภิกษุ 6 แผ่นดิน” และมีฉายาที่ผู้คนกล่าวขานกันไม่รู้จบว่า “หลวงปู่สอน วาจาสิทธิ์”

#ตะกรุดหลอมไม่ละลาย #หลวงปู่สอน
#ตะกรุดสายเหนียว #มหาอุด
#คงกระพันชาตรี #พระเครื่องดัง
#ตำนานพระเกจิ

1 week ago | [YT] | 20

Ajahn's Blessings

“หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ” หนึ่งในสิบพระเกจิผู้มีพลังจิตแก่กล้าแห่งสยาม | ตำนานความขลังที่แม้กาลเวลาก็ไม่อาจลบเลือน

สวัสดีครับทุกท่าน
ขอต้อนรับเข้าสู่ตำนานเรื่องเล่าศักดิ์สิทธิ์แห่งแผ่นดินสยาม

วันนี้...เราจะพาท่านไปรู้จักกับ “หลวงพ่อจอน สิริจนฺโท” หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “พระครูจอน” แห่งวัดดอนรวบ จังหวัดชุมพร พระเกจิผู้เปี่ยมด้วยเมตตา และเป็นหนึ่งในสุดยอดพระอริยสงฆ์ ที่มีพลังจิตแก่กล้า และอาคมขลัง จนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “สิบสุดยอดพระเกจิแห่งสยามประเทศ”
หลวงพ่อจอน ท่านมิได้เป็นเพียงพระนักปฏิบัติธรรมผู้เคร่งครัดในพระวินัยเท่านั้น
แต่ท่านยังเป็นผู้เปี่ยมด้วยเมตตา กรุณา และความอ่อนโยนในหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นใคร
หญิง ชาย เด็ก หรือผู้เฒ่า แม้แต่คนยากไร้หรือคนผิดพลาดในชีวิต ท่านก็ยังเปิดใจรับ ฟัง และให้โอวาทด้วยรอยยิ้มอันเปี่ยมเมตตา

ท่านมักพูดเสมอว่า...
“ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดเกินคำว่า ‘ดี’
จงมองทุกสิ่งด้วยใจสงบ และตอบแทนด้วยความดีเท่านั้น” แม้ชีวิตในเพศสมณะจะต้องพบเหตุการณ์มากมาย ทั้งทุกข์ทางโลกและทางธรรม แต่หลวงพ่อจอนกลับใช้ “ขันติ” และ “อุเบกขา” เป็นเกราะป้องกันใจ
ไม่หวั่นไหวต่อคำยั่วยวนหรือสิ่งกระทบใด ๆ
สิ่งที่หลุดออกจากโอษฐ์ของท่านมีเพียงคำว่า... “ดี” คำเดียวเท่านั้น

ตลอดชีวิตของท่าน หลวงพ่อจอนได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่างแต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์คือ… ท่านไม่เคยสร้างเหรียญรูปของตนเองเลย เหรียญหลวงพ่อจอนที่เราพบเห็นในปัจจุบันนั้น ถูกจัดสร้างขึ้น “ภายหลังที่ท่านมรณภาพแล้ว”

ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๘๕ – ๒๔๘๗
โดยมีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ในยุคนั้นหลายรูปมาร่วมปลุกเสก และเป็นเหรียญที่เปี่ยมด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ มีประสบการณ์มากมายจนเป็นที่กล่าวขาน เหรียญงาม ๆ ของท่านจึงหายากยิ่ง และมีคุณค่าสูง ทั้งในทางจิตใจและวัตถุ ราคาของเหรียญสวย ๆ ในปัจจุบันอยู่ในหลักหมื่นกลาง ๆ แต่สำหรับศิษยานุศิษย์แล้ว...“คุณค่าทางใจ” นั้น สูงเกินกว่าตัวเลขใดจะประเมินได้

ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. ๒๔๕๒
เกิดเหตุการณ์สำคัญที่ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์พระเกจิแห่งสยาม
เมื่อ สมเด็จพระสังฆราช (เข) แห่งวัดบวรนิเวศวิหาร ทรงมีพระดำริจัดพิธี “ทดสอบพลังจิตและอาคมขลังของพระเกจิทั่วประเทศ” ขึ้น ณ วัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม นับเป็นครั้งเดียวในประวัติศาสตร์
ที่พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมจากทั่วสยาม ถูกนิมนต์ให้มาชุมนุมพร้อมกันมากกว่า หนึ่งร้อยรูป

พิธีนี้…
เปรียบเสมือนการเฟ้นหาสุดยอดเกจิ
เพื่อยืนยันพลังแห่งสมาธิ วิปัสสนา และจิตตานุภาพของพระผู้ทรงธรรม การทดสอบ เริ่มต้นขึ้นอย่างเข้มขลัง พระเถระแต่ละรูปจะต้องจับสลากขึ้นมาทดสอบทีละรูป
โดยมี “ท่อนไม้” วางบนม้ารองสองตัว
และ “กบไสไม้” วางอยู่บนนั้น

กติกาคือ...
ให้พระเกจิใช้พลังจิต บังคับให้กบไสไม้เคลื่อนไป–กลับ โดยห้ามตกจากไม้
เสียงสวดมนต์ เสียงภาวนา ดังแว่วในอากาศ
บรรยากาศรอบเจดีย์ใหญ่เงียบสงัด จนแทบได้ยินเสียงหัวใจของผู้เฝ้ามอง
สามวัน สามคืน ผ่านไป.พระเกจิส่วนใหญ่ทำได้เพียง “ให้กบเคลื่อนไปข้างหน้า”
แต่ไม่สามารถบังคับให้กลับมาได้
สุดท้าย...

เหลือเพียงพระเกจิผู้มี “พลังจิตแก่กล้าอย่างแท้จริง” เพียงสิบรูปเท่านั้น ที่สามารถควบคุมให้กบไสไม้เคลื่อนไป–กลับได้อย่างน่าอัศจรรย์

และหนึ่งในนั้น...
คือ “หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ จังหวัดชุมพร”
พระผู้เปี่ยมด้วยเมตตา แต่ทรงอำนาจทางจิตเหนือสามัญชนนับแต่นั้นมา...

พระนามของท่านได้ถูกบันทึกไว้ในทำเนียบ
“๑๐ พระเกจิผู้มีพลังจิตแก่กล้าแห่งสยามประเทศ” พระเกจิทั้ง ๑๐ รูปที่ได้รับการยกย่องมีดังนี้

๑. หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
๒. หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
๓. หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
๔. หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพมหานคร
๕. หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน จ.พิจิตร
๖. หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก จ.นครปฐม
๗. หลวงพ่อทอง วัดคีรีนาถบรรพต จ.นครสวรรค์
๘. หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จ.สมุทรปราการ
๙. หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
๑๐. หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ จ.ชุมพร

เรื่องราวของหลวงพ่อจอนจึงมิได้เป็นเพียง “ตำนานความขลัง”แต่ยังเป็น “บทเรียนแห่งพลังจิตและศรัทธาในธรรม”

ท่านคือแบบอย่างของพระผู้มีขันติสูงสุด
ผู้ไม่เอาชนะใครด้วยเวทมนตร์ แต่ชนะใจคนด้วยความดี แม้กาลเวลาจะผ่านไปกว่า ๘๐ ปี
แต่ชื่อของหลวงพ่อจอน ก็ยังคงสถิตอยู่ในหัวใจของศิษยานุศิษย์ และผู้ศรัทธาทั่วแผ่นดิน

🙏 ขอให้เรื่องราวนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้เราทุกคน หมั่นฝึกใจให้สงบ มองโลกด้วยเมตตา และสร้างคุณความดีให้ยั่งยืน... ดุจดัง “หลวงพ่อจอน วัดดอนรวบ” หากท่านชอบเรื่องราวตำนานแห่งศรัทธาเช่นนี้อย่าลืมกด “ติดตาม” และ “กดกระดิ่ง”เพื่อไม่พลาดเรื่องราวขลัง ๆ จากผมในตอนต่อไป ขอบคุณครับ 🙏

#หลวงพ่อจอน #วัดดอนรวบ #ตำนานพระเกจิ #สิบสุดยอดพระเกจิ #หลวงพ่อจอนวัดดอนรวบ #พระเกจิชุมพร #พลังจิตแก่กล้า #อาคมขลัง #สารคดีพระเกจิ #ตำนานแห่งศรัทธา

1 week ago | [YT] | 588